ไม่พบผลการค้นหา
'ผบ.ตร.' พอใจภาพรวมการรักษาความปลอดภัยผู้นำ-ความสงบ มั่นใจไม่เกิดเหตุรุนแรงหลังมีข่าวจะวางระเบิดงานเอเปค เผยการข่าวป่วนเพิ่มและฝั่งผู้ชุมนุมถูกยิงเบ้าตาขอตรวจสอบก่อน บอกสื่อต้องช่วยตัวเอง ชี้ชอบไปอยู่แนวหน้า-ไม่รู้มีประเทศไหนเป็นแบบนี้ เผยกลุ่มผู้ชุมนุมประกันตัวไปเกือบหมดแล้ว

วันที่ 19 พ.ย. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยพื้นที่การจัดงานเอเปค ว่า ช่วงเที่ยงวันนี้จะเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมของผู้นำ ณ.ขณะนี้ทุกอย่างยังถือว่าอยู่ในความเรียบร้อย

ผบ.ตร.S__50847788.jpg

ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมวานนี้ ขั้นตอนการดำเนินการเป็นไปตามที่โฆษกฯ ตร.ให้ข่าวไปแล้ว ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ประกาศไปว่าทุกขั้นตอน ว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถชุมนุมได้ แต่การจะออกหรือเคลื่อนที่นอกพื้นที่ชุมนุมต้องแจ้ง ซึ่ง บช.น.มีเงื่อนไขเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยและเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ประเทศในช่วงที่ผู้นำเดินทางมาจึงไม่อยากให้ออกเดิน

"แต่กลับมีความพยายามจะออกเดินและเส้นทางที่ไปก็สุ่มเสี่ยงมุ่งตรงไปยังศูนย์สิริกิตติ์ ตำรวจก็อาจมีการรั้งหน่วงในหลายจุดและเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ซึ่งเป็นไปตามที่โฆษกฯ ตร.ให้ข่าวไป ซึ่งก็จะให้ บช.น.ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกเรื่องต่อไป" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ม็อบราษฎรหยุด APEC2022

ส่วนการข่าววันนี้พบว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนจะต้องมีการวางกำลังเพิ่มเติมหรือไม่ตนมองว่าเป็นไปตามการข่าวและหน้างานเพราะจริงๆ ตาม พ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องมีการแจ้งก่อนการชุมนุม 24 ชั่วโมง หากกระทันหันก็เป็นอำนาจผู้การในพื้นที่ ที่จะพิจารณาและดูเงื่อนไขต่างๆ ประกอบซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งการชุมนุมที่เกี่ยวข้องในการประชุมเอเปค ซึ่งขณะนี้เราได้วางกำลังไว้ตามปกติ

ส่วนกรณีวานนี้ในพื้นที่ชุมนุมมีเหตุรุนแรงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณเบ้าตานั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบรายละเอียดอีกที เพราะยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจน แต่ได้รับรายงานตำรวจบาดเจ็บ 15 นาย โดยมี 1 นายอาการสาหัสแอดมิดอยู่โรงพยาบาล ส่วนที่เหลือรับยากลับบ้านแล้ว ส่วนผู้ชุมนุมมีบาดเจ็บอยู่บ้างแต่อย่างใดขอตรวจสอบอีกที

ม็อบราษฎรหยุด APEC2022

เมื่อถามถึงกรณีสื่อบางสำนักออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทำร้ายสื่อมวลชนที่สวมปอกแขนนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องของสื่อมวลชนเราเคยมีการร้องต่อศาลแพ่ง โดยศาลให้แนวทางจัดระเบียบกับสื่อมวลชน ซึ่งทุกอย่างต้องช่วยกันและต้องยอมรับว่าช่วงหลังบางครั้ง อย่างแยกดินแดงสื่อมวลชนจะเยอะกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมด้วยซ้ำ จึงทำให้การจัดระเบียบค่อนข้างยาก และสื่อมวลชนก็พยายามที่จะอยู่บริเวณด้านหน้าของม็อบ ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปได้ยากและไม่มั่นใจว่าประเทศอื่นมีอย่างนี้ด้วยหรือไม่

"หากมีการโต้ตอบของผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชนจะต้องช่วยตัวเองด้วยนะ ต้องระมัดระวังเพราะมันยากที่จะควบคุม พร้อมฝากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะเป็นสื่อมวลชนและยูทูปเบอร์ก็เยอะ ซึ่งไม่ได้อยู่ในแนวและไม่ได้แจ้ง พอมีเหตุการณ์สำคัญก็อาจจะผิดพลาดบ้าง ก็ต้องเป็นไปตามหน้างานว่าใครเป็นใครมีความผิดหรือไม่ก็ต้องไปตรวจสอบ" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ คฝ.ยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุมโดยทำหน้าทำตาล้อเลียนนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า ตนยังไม่เห็นภาพนั้นและหากเป็นจริงคงต้องกำชับการปฏิบัติในกรอบกฎหมายให้เป็นสัดส่วนและเป็นเหตุเป็นผล แต่ว่าบางทีหน้างานจริงอาจไม่ได้เป็นตามนั้น 100% ภาพทั้งหมดเราอาจจะไม่ได้เห็นในเหตุการณ์ก่อนหน้า ก็จะพยายามให้ บช.น.จัดทำไทม์ไลน์ขึ้นมาและตรวจสอบรายละเอียดอีกที

ม็อบราษฎรหยุด APEC2022

ส่วนกรณีผู้ชุมนุมถูกคุมตัวอยู่ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เผยว่า ตนได้รับรายงานได้รับการประกันตัวเกือบทั้งหมดไปเมื่อคืน เหลือเพียงแกนนำบางส่วนเท่านั้น 

ส่วนจะต้องมีมาตรการสแกนอาวุธก่อนเข้าพื้นที่ชุมนุมหรือไม่นั้น ผบ.ตร. ย้ำว่า เรามีมาตรการอยู่แล้ว แต่บางทีการชุมนมที่ติดต่อกันหลายวัน การสแกนอาจจะไม่ได้ 100% แต่ส่วนใหญ่จะมีจุดคัดกรองเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเราก็เคยเจอหลายครั้ง เช่น หัวน็อต 

เมื่อถามว่า ได้ตรวจสอบกรณีที่โซเชียลมีการเผยจะมีการใช้โดนเพื่อวางระเบิดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือไม่ ผบ.ตร. ย้ำว่า เจ้าหน้าที่เตรียมการอยู่แล้ว โดยร่วมมือระหว่างทหารกับตำรวจ ซึ่งเรามีความรับผิดชอบชัดเจนทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานการดูแลผู้นำ ทั้งเรื่องวัตถุระเบิดและเรื่องโดรน พร้อมให้ความมั่นใจจะไม่ให้เกิดเหตุ 

ส่วน 3-4 วันที่ผ่านมามีการประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนพอใจเพราะ เป็นงานใหญ่ที่นานๆจะจัดทีหนึ่ง ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อความไม่สงบเราก็ถือว่าสามารถผ่านไปลุล่วงด้วยดี ซึ่งตนดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอนุกรรมการรักษาความปลอดภัยและการจราจร

"โดยภาพรวมขณะนี้ยังไม่มีความเสียหายอะไรต่อผู้นำ ส่วนจะให้มองว่าเราสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดีหรือไม่ คงต้องให้คนอื่นประเมินด้วย" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว