เทมส์ วอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น บริษัทประปาของอังกฤษ ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 26 รายระหว่างการปรับพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการวางท่อส่งน้ำในเมืองวอนทาจ มณฑลออกซฟอร์ดเชอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ โดยทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2562 ระบุว่า ที่ผ่านมา บริษัทเคยขุดพบโบราณวัตถุในระหว่างดำเนินการวางแนวท่อประปามาก่อน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ขุดพบสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ถึงขนาดนี้
หลุมศพทั้ง 26 หลุมมีโครงกระดูกมนุษย์ถูกฝังอยู่ในสภาพแตกต่างกันออกไป แต่คาดว่าทั้งหมดคือผู้ที่ถูกบูชายัญให้กับความเชื่อในสมัยโบราณ
สถาบันโบราณคดีคอตส์โวลด์ เป็นผู้เข้ารับช่วงต่อในการขุดหลุมและเคลื่อนย้ายโครงกระดูกไปเก็บรักษาและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และนีล ฮอลบรุ๊ก ผู้บริหารสถาบันฯ ประเมินว่า โครงกระดูกทั้งหมดนี้ถูกฝังในยุคเหล็ก หรือประมาณกว่า 3,000 ปีที่แล้ว ก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะแผ่ขยายอิทธิพลมายังอังกฤษโบราณ
สภาพโครงกระดูกที่พบ มีทั้งผู้หญิงซึ่งถูกตัดเท้าออกทั้งสองข้าง และถูกมัดมือไพล่หลังศีรษะ รวมถึงผู้ชายที่ถูกตัดศีรษะเพื่อนำไปวางระหว่างเท้าทั้งคู่ แต่คาดว่าโครงกระดูกทั้งหมดจะถูกฝังในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ยังมีการขุดพบซากสัตว์และของใช้ต่างๆ ในหลุมด้วย เช่น เครื่องปั้นและหวีประดับ ซึ่งนักโบราณคดีที่รับผิดชอบการขุดหลุมฝังศพโบราณเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อและความเป็นอยู่ของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้อีกมาก จึงถือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
ด้านคริส ร็อกฟอร์ด ผู้จัดการด้านสิ่งแวดล้อมของเทมส์ วอเตอร์ส ระบุว่า โครงการพัฒนาและวางแนวท่อส่งน้ำในออกซฟอร์ดเชอร์ใช้งบประมาณกว่า 14.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 594.5 ล้านบาท) ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยอนุรักษ์ลำน้ำสาขาที่ใกล้แห้งขอดในชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดเผยความลับทางประวัติศาสตร์ในอดีตด้วย
ร็อกฟอร์ดกล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่เห็นชอบให้บริษัทดำเนินการต่อไปได้หลังจากที่เคลื่อนย้ายโครงกระดูกและโบราณวัตถุทั้งหมดออกไปจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากที่โครงการวางท่อส่งน้ำและพัฒนาระบบประปาแล้วเสร็จ ก็อาจจะนำไปสู่การพัฒนาศูนย์เรียนรู้หรืออนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งนี้ต่อไปในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: