การประกาศหยุดผลิตเครื่องโบอิ้ง แม็กซ์ 737 ถูกรายงานผ่านสื่อหลายสำนักมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะเครื่องบินรุ่นนี้เกี่ยวพันกับอุบัติเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งช่วงปลายปี 2018 และต้นปี 2019 ซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่ประเทศเอธิโอเปียและอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และบริษัทโบอิ้งออกมาชี้แจงภายหลังว่าอาจจะเกิดจากระบบซอฟต์แวร์ควบคุมการบิน แต่ก็ยังไม่ได้สรุปผลชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัทโบอิ้ง เพราะบริษัทถูกกดดันจากทั้งสายการบินที่เป็นลูกค้า รวมถึงครอบครัวของผู้โดยสารกว่า 300 คน ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินทั้งสองครั้ง ทั้งยังมีคำสั่งลดการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงขั้นระงับการผลิตในปีหน้า ส่งผลให้ 'เดนนิส มุยเลนเบิร์ก' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของโบอิ้ง ประกาศลาออกเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่โบอิ้งต้องเผชิญกับวิกฤตด้านความเชื่อมั่นศรัทธาในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนี้
ส่วนผู้ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอแทนมุยเลนเบิร์ก คือ 'เดวิด คาลฮูน' ซึ่งแต่เดิมดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของโบอิ้ง และคาลฮูนจะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโออย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มกราคมปีหน้า
ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้หุ้นของโบอิ้งดีดตัวขึ้น 2.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์โดยรวมของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ โบอิ้งได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็น เพราะต้องการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของบริษัท เพื่อให้ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆ ที่กำกับดูแลด้านการบินระหว่างประเทศ และเพื่อให้บรรดาผู้โดยสารและสายการบินที่เป็นลูกค้ากลับมามั่นใจในแบรนด์โบอิ้งอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: