ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 3/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 2) โดยแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกำหนดกิจการ/กิจกรรม มาตรการควบคุมหลัก มาตรการเสริมตามเอกสารแนบท้าย
โดยมีการกำหนดมาตรการควบคุมหลักและมาตรการเสริมในกิจการ/กิจกรรม 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และ กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ
พร้อมกับระบุว่า มาตรการควบคุมหลัก หมายถึง มาตรการที่รองรับตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 11 ส่วนมาตรการเสริม หมายถึง มาตรการเฉพาะรายกิจการ ที่ผู้ประกอบกิจการและผู้จัดกิจกรรมพึงให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามแนวทางที่กำหนด รวมถึงผู้ใช้บริการและผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อทำให้มาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยมีคู่มือการปฏิบัติ เป็นแนวทางการดำเนินการและเงื่อนไขในการประกอบกิจการและการจัดกิจกรรมของแต่ละพื้นที่ เพื่อดำรงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนี้ยังระบุว่า กิจการหรือกิจรรมตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 2/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตาม ความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้พิจารณาเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามที่ทางราชการกำหนด หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทน
โดยคำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ลงนามเอกสารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :