ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยชนะ' ลั่นไม่ใช่งูเห่า เพราะ สส.แหกมติโหวต 'เศรษฐา' นั่งนายกฯ เป็นเสียงส่วนใหญ่ ปัดดีลลับร่วมรัฐบาล ไม่มีตีเช็คเปล่า ตัดสินใจกันเองหวังประเทศเดินหน้าได้

วันที่ 23 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงกรณี 16 สส.พรรคประชาธิปัตย์ สวนมติพรรคโหวตเห็นชอบให้ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.)

ชัยชนะ ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องกลัวตกขบวนร่วมรัฐบาล แต่ในการประชุมพรรคได้หารือกัน จนมีความเห็น ทั้ง 3 แบบ คือเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง กระทั่งในช่วงเย็น ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า งดออกเสียง 

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ฟังการอภิปรายจากทั้ง สส. และ สว. เรื่องข้อสงสัยในตัว เศรษฐา ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร และมองว่าไม่มีน้ำหนักอะไรที่จะเป็นปัญหาต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่อยากหาทางออกจากประเทศ มองว่าถ้าเป็น เศรษฐา หรือคนที่ไม่มีความคิดล้มล้าง หรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีจุดยืนชัดเจน ตอนนี้การเลือกตั้งล่วงเลยมา 90 วัน ยังไม่มีรัฐบาล ไม่มีนายกฯ สำคัญสุดประเทศต้องหาทางออกให้ได้ พี่น้องประชาชนเจ็บช้ำ 

นอกจากนี้ ชัยชนะ ยังเผยว่า ไม่ได้มีเพียง 16 สส. ที่โหวตเห็นชอบ แต่บางคนโหวตไปก่อนแล้ว บางคนก็โหวตไม่ทัน จึงตัดสินใจชั่วโมงสุดท้าย

"การโหวตครั้งนี้ไม่ได้ยืนยันว่าจะร่วมรัฐบาล แต่เราพร้อมทำงานทั้ง 2 หน้าที่ คือเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ทั้งนี้ ต้องกราบขออภัยแฟนคลับประชาธิปัตย์บางส่วน ที่มีความคาดหวังว่า จะไม่โหวตหรืองดออกเสียง ยืนยันว่า ไม่มีดีลกับพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ ขอให้มาเช็คโทรศัพท์ได้เลย ไม่ได้คุยกับใคร"

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ยืนยันว่า มีมติพรรคออกมาแล้วว่างดออกเสียง ชัยชนะ ย้อนถามเจ้าตัวที่พูดว่า อยู่ในที่ประชุมหรือไม่ หาเปิดบันทึกการประชุมดูได้ แต่ยืนยันว่าตัวเองและเพื่อน สส. มีหลายความเห็น ต้องประชุมกันนอกรอบ เพราะเรียกประชุมใหม่ไม่ทัน

ชัยชนะ ระบุว่า ทราบดีว่าขัดมติพรรคจะเกิดอะไรขึ้น น้อมรับการตรวจสอบ หากมีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบ เพราะเราก็มี 2 ทางให้เลือก มีผลอย่างไรก็ต้องยอมรับให้ได้ 

ส่วนกังวลหรือไม่หากโทษแรงถึงขั้นถูกขับออกจากพรรค ชัยชนะ กล่าวว่า ยินดีจะแสดงความบริสุทธิ์ และบอกเหตุผล ท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร ก็น้อมรับได้ และการโหวตครั้งนี้ ไม่ได้แจ้งผู้ใหญ่ในพรรค อย่าง ชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค เพราะเวลากระชั้นชิด

ชัยชนะ ยืนยันว่า เราไม่ใช่พรรคอะไหล่ของใคร และไม่ใช่งูเห่า งูเห่าต้องจำนวนน้อย แต่เราไปกับเสียงข้างมาก เรียกงูเห่าไม่ได้ ขณะที่กรณีกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์หรือไม่ ชัยชนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องทุกคนคิดได้ 

"ความจริงก็คือความจริง ความจริงอยู่ในตัวผม ไม่เคยหลบสื่อมวลชน พร้อมให้ข้อมูลตลอด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ผมก็พูดได้ และผมไม่เคยให้ร้ายให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย"

ชัยชนะ ระบุว่า การโหวตครั้งนี้ไม่ใช่ตีเช็คเปล่า แต่เป็นความคิดในเวลานั้น ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลชักชวนไปทำงาน ชัยชนะ บอกว่า เป็นเรื่องในอนาคต เรื่องยังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่สามารถตอบได้ แต่อยากฝากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไปกับรัฐบาลใหม่ด้วย

เมื่อถามว่า หากนับรวมเสียง สว. ที่โหวตเห็นชอบ เศรษฐา ก็เสียงพออยู่แล้ว นายชัยชนะ กล่าวว่า ก็เพราะเสียงพอ เราก็เลยโหวตให้ด้วย 

เมื่อถามว่า การสวนมติครั้งที่ผ่านมามีแค่ไม่กี่คน แต่ครั้งนี้เป็นกลุ่มใหญ่ และเป็นเสียงส่วนใหญ่ของพรรคด้วย ชัยชนะ สวนกลับทันทีว่า ก็ต้องถามคนถามว่า พอใจกับกลุ่มไหนมากกว่ากัน

ส่วนในอนาคตจะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ต้องกลับไปถามที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเทียบเชิญมา