เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 พ.ย. 2563 เครือข่าย People GO นำโดย นิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, สุภาภรณ์ มาลัยลอย เครือข่ายองค์กรนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หน้าพรรคสามัญชน, อภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย และ จำนงค์ หนูพันธ์ จาก P-move
โดยแต่ละคนย้ำจุดยืนของเครือข่าย ครอบคลุมทั้งการเปลี่ยนผ่านการเมือง ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกร่างใหม่โดยประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อนำสู่การสร้างรัฐสวัสดิการ, การกระจายอำนาจปกครอง, รับรองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและสิทธิชุมชนต่างๆ รวมถึงสิทธิของผู้ต้องหา - ผู้ถูกจับกุม และการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องไม่เลือกปฏิบัติด้วย
ก่อนที่ เลิศศักดิ์ จะเป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ "จากราษฎร์ดำเนินสู่ราษฎรสภา : รัฐสภาต้องรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน" เนื้อหาสำคัญคือ เรียกร้องให้รัฐสภารับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อสร้างทางออกจากวิกฤตของประเทศ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประชาชนต้องมีส่วนร่วมในทุกระดับ ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ และต้องมี ส.ส.ร.จากการเลือกตั้งทั้งหมด และต้องให้ผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญส่งผู้แทนเข้าร่วมในกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาด้วย
โดยรัฐธรรมนูญใหม่ต้องปราศจาก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง, คำนึงถึงการลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน, มีการปฏิรูปองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ปฏิบัติหน้าที่ไม่หวั่นเกรงอิทธิพลครอบงำใด และจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ต้องทำให้สถาบันในสังคมไม่มีอำนาจอยู่เหนือรัฐธรรมนูญอีกต่อไป ซึ่งเชื่อว่า แนวทางนี้ จะทำให้สังคมไทยกลับคืนสู่สันติสุขและทำให้สังคมการเมืองตอบสนองต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
สำหรับวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ เครือข่าย People Go จะร่วมกับภาคประชาชนออกมาร่วมชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เพื่อรอคอยจนกว่ารัฐสภาจะมีมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนด้วย วาระนี้ People Go ประกาศยืนยันการสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของคณะราษฎร 2563 และจะร่วมเป็นกำลังในการขับเคลื่อนด้วย และยืนยันว่า การเสนอปฏิรูปสถาบันไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน
เลิศศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ารัฐสภาไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชน น่าจะมาจากเหตุที่เป็นร่างเดียว ที่ระบุว่า ต้องแก้ที่มาและอำนาจ ส.ว.และบทบาทหน้าที่องค์กรอิสระ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์วุฒิภาวะของชนชั้นปกครองไทย ว่ามีมากพอที่จะเปลี่ยนผ่านการเมืองโดยสันติวิธี โดยรัฐสภาหรือไม่