นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนสายการบิน รวมถึงบริษัทน้ำมัน วันนี้ (20พ.ย.2562) หลังผู้ประกอบการสายการบินในประเทศไทย คือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยเวียตเจ็ต และบางกอกแอร์เวยส์ ร้องขอให้มีการทบทวนลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน หรือ เจ็ทเอ-วัน หลังจากมีการปรับขึ้นจาก 0.20 บาทต่อลิตร เป็น 4.726 บาทต่อลิตรตั้งแต่ปี 2560 ว่าเบื้องต้นที่ประชุมยังไม่ได้มีการสรุปว่าจะให้มีการปรับลดภาษีสรรสามิตดังกล่าวหรือไม่ โดยขอให้ผู้ประกอบการสายการบินกลับไปทำแผนสาธารณประโยชน์เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนหากจะมีการปรับลดภาษีดังกล่าวลง เช่น แนวงทางการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นต้น โดยภายใน 2 สัปดาห์จะมีการนัดหารืออีกครั้ง ซึ่งจะมีการเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณาร่วมด้วย
อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า การจะพิจารณาว่าจะให้ปรับลดหรือไม่ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับแผนของผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ ว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากให้มีการปรับลดภาษี ก็จะเป็นมาตรการเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะลดได้ในอัตราที่เท่าใด
“ต้นทุนภาษีน้ำมันเครื่องบินไม่ได้แพงกว่าขนส่งอื่นๆ ดังนั้นการจะให้ทบทวนว่าจะลดหรือไม่ลดประโยชน์ต่อสาธารณะจะต้องชัดเจนด้วย เช่น การเพิ่มความถี่เที่ยวบิน การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ประโยชน์ของผู้ประกอบการสายการบิน และการจะลดภาษีดังกล่าวคงให้แบบถาวรไม่ได้” นายพชร กล่าว