นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระบุถึงกรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี นายทหารที่ออกมาเปิดโปงขบวนการโกงเงินเบี้ยทหารชั้นผู้น้อยภายในศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ผ่านเฟซบุ๊กว่า ส.อ.ณรงค์ชัยพยายามร้องเรียนต่อหน่วยงานภายในกองทัพ ปรากฏว่าเขาถูกสอบสวนวินัยอยู่เพียงฝ่ายเดียว จนต้องยอมเสี่ยงออกจากค่ายมาขอความช่วยเหลือทั้งจากผู้มีปากเสียงในสังคม ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือแม้กระทั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. สิ่งที่เขาควรได้รับคือการให้ความคุ้มครองในฐานะพยาน แต่สิ่งที่เขาได้รับในความเป็นจริงกลับเป็นคำขู่จากผู้บังคับบัญชาว่าจะให้เขาตายในห้องขัง
นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ย้อนนึกถึงภายหลังจากเหตุการณ์จ่าทหารก่อเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) เป็นเหตุสะเทือนขวัญผู้คนทั้งประเทศ ผมได้ยิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาประกาศว่าจะดำเนินการปฏิรูปกองทัพภายใน 90 วัน และเห็นกองทัพตีฆ้องร้องป่าวว่าจะริเริ่มสะสางปัญหาต่างๆ เช่น การจัดระเบียบธุรกิจของกองทัพที่จะให้กรมธนารักษ์มาช่วยดูแล การขีดเส้นให้นายทหารเกษียณย้ายออกจากบ้านพัก หรือการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียนปัญหาต่อ ผบ.ทบ. ได้โดยตรง
แม้เป็นเรื่องยากยิ่งที่สังคมจะยอมเชื่อคำของผู้นำกองทัพได้ เนื่องจากที่ผ่านมาศรัทธาที่ประชาชนมีต่อทหารนั้นแทบมลายสิ้นไปแล้วด้วยน้ำมือของทหารเอง หลายคนเลือกที่จะไม่คาดหวัง แต่สำหรับตนแล้วยังคงเผื่อใจอยู่ลึกๆ ถึงโอกาสหนึ่งในล้านที่ พล.อ.อภิรัชต์จะตระหนักและเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ ทว่าถึงตอนนี้ เหลืออีกไม่เพียง 2 สัปดาห์ก็จะครบกำหนด 90 วันที่ พล.อ.อภิรัชต์รับปากไว้ นอกจากเราจะไม่ได้เห็นความคืบหน้าอะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมาจากกองทัพแล้ว เรากลับยังต้องเห็นถึงความโหดร้ายที่ ส.อ.ณรงค์ชัยต้องเผชิญ ซึ่งก็ได้ทราบมาว่า ส.อ.ณรงค์ชัยพยายามร้องเรียนผ่านคอลเซ็นเตอร์ถึง พล.อ.อภิรัชต์ไปแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ก็หาได้มีผู้นำพาไม่
นายรังสิมันต์ ยังระบุถึงการปฏิรูปกองทัพของ พล.อ.อภิรัชต์ ทำไมจึงปล่อยให้นายทหารผู้สุจริตเที่ยงธรรมต้องประสบชะตากรรมอันยากเข็ญเช่นนี้ได้ แม้ว่าเวลานี้สังคมจะให้ความสนใจกับเรื่องโควิด-19 เป็นหลัก แต่ในฐานะ ส.ส.จากพรรคการเมืองที่ยืนยันเรื่องการปฏิรูปกองทัพมาโดยตลอด ไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปได้ โดยสำหรับประเด็นการทุจริตคอร์รัปชันนั้นทราบว่า ส.อ.ณรงค์ชัยได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการทหารและคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของสภาผู้แทนราษฏรแล้ว ส่วนเรื่องการข่มขู่คุกคามนั้นมีความเกี่ยวข้องกับงานของคณะกรรมการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนโดยตรง ในฐานะกรรมาธิการจะขอนำเรื่องนี้หารือต่อที่ประชุมต่อไป
นายรังสิมันต์ ระบุว่า "การติดตามเรื่องผ่านคณะกรรมาธิการฯ อาจไม่สามารถทำได้โดยเร็วนัก ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตัว ส.อ.ณรงค์ชัยที่ตอนนี้ยังต้องอยู่อย่างระมัดระวังและไม่ได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัด ผมจึงขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อภิรัชต์ในฐานะ ผบ.ทบ. ให้ตั้งคณะกรรมการของกองทัพบกเพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งการสอบสวนจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสและเปิดให้หน่วยงานภายนอกและสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดได้ทั้งหมด รวมถึงสร้างหลักประกันความปลอดภัยให้กับ ส.อ.ณรงค์ชัย ด้วยตำแหน่งของท่านเองเป็นเดิมพัน"
"หากพบว่า ส.อ.ณรงค์ชัยได้รับอันตรายแต่ประการใดแล้ว ผมยืนยันว่าจะนำตัว พล.อ.อภิรัชต์และนายทหารที่เกี่ยวข้องกับกรณีทั้งหมดทุกนาย ซึ่งผมสามารถสืบทราบได้ว่าเป็นใครบ้าง มาแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าผู้แทนราษฎรให้ได้อย่างแน่นอน"