ไม่พบผลการค้นหา
'มานิตย์ อินทร์พิมพ์' นักรณรงค์เพื่อสิทธิคนพิการ ถอดบทเรียนเหตุการณ์แย่งที่จอดรถคนพิการครั้งล่าสุดที่ห้างสรรพสินค้าดังเมืองพัทยา

คลิปการแย่งที่จอดรถของผู้พิการที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 เมืองพัทยา กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยต่อมาทางห้างออกมาขอโทษ พร้อมตำหนิไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ปล่อยให้รถหรูเข้ามาจอดแทนในจุดจอดรถของผู้พิการ นอกจากนี้ยังยืนยันว่าจะปรับปรุงและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการแย่งที่จอดรถคนพิการ แต่พูดได้ว่า ‘ซ้ำแล้วซ้ำเล่า’ 

‘ซาบะ’ มานิตย์ อินทร์พิมพ์ นักรณรงค์เพื่อสิทธิคนพิการ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Accessibility Is Freedom ถอดบทเรียนเหตุการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า มีต้นเหตุสำคัญ 3 ประการ 

1.สำนึกสาธารณะ

เขาเห็นว่าความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและสำนึกสาธารณะในสังคมไทยยังอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง เช่น ขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า ไม่เคารพกฎจราจร ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง รวมถึงจอดรถในที่คนพิการ ทั้งหมดคือเรื่องสำนึกสาธารณะทั้งสิ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ข้ามคืน 

อย่างไรก็ตาม ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ซาบะเปลี่ยนตัวเองจากเหยื่อเป็นนักเคลื่อนไหว เขาเห็นว่าคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นและตื่นตัวต่อปัญหาการละเมิดสิทธิหรือเอาเปรียบผู้พิการ  

“ดูจากกระแสโซเชียล หากมีใครกระทำความผิดเขาจะถูกโจมตีอย่างหนัก ในฐานะที่ผมผลักดันรณรงค์เรื่องนี้ ชื่นใจนะครับ ที่สังคมเริ่มช่วยกันส่งเสียงต่อ”


46454459_2116814675007833_6783157690135740416_n.jpg

2. นโยบายของผู้บริหาร

นโยบายของผู้บริหารสถานที่หรือห้างสรรพสินค้าสำคัญมากในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสำนึกสาธารณะ 

“พูดอย่างตรงไปตรงมา คือผู้บริหารเขาไม่อยากทะเลาะกับลูกค้า ต้องการดูแล และไม่กล้ารักษากฎระเบียบอย่างจริงจัง ส่งผลให้พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ปลายทางปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไร หากเจอคนไร้สำนึกยืนยันว่าฉันจะจอด”

เขาเสนอว่า ห้างต้องกำหนดกฎระเบียบอย่างชัดเจน หากเกิดปัญหาแย่งที่จอดรถคนพิการ รปภ. มีหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างไร เช่น ห้ามคนทั่วไปเข้ามาจอดเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกล็อกล้อหรือปรับเงิน เป็นต้น 

“สิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้คนไทยเกิดจิตสำนึกที่ดี และมีส่วนช่วยสร้างวัฒนธรรมที่เราอยากให้เป็น” ชายผู้ที่นั่งวีลแชร์มานานกว่า 30 ปี กล่าว 


43534359_2058037340885567_787800880165421056_n.jpg

3. นโยบายและความจริงจังจากภาครัฐ 

นับตั้งแต่เริ่มรณรงค์เพื่อสิทธิผู้พิการเมื่อ 5 ปีก่อน มานิตย์บอกว่าเขาไม่เห็นความจริงจังในการช่วยเหลือจากภาครัฐเสียที แม้ประเทศไทยจะมีกฎระเบียบ แต่ในเชิงปฏิบัติจริงกลับมีจุดอ่อน เมื่อไร้ข้อบังคับในลักษณะให้คุณให้โทษ 

“ไม่มีการกำหนดว่า ถ้าจอดรถแล้วจะถูกปรับ 5,000 บาท เหมือนกับการปรับผู้สูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ พอไม่มีบทลงโทษมันก็ส่งเสริมให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้ไม่หยุดหย่อน” 

สำหรับซาบะ วัย 52 ปี เขามีร่างกายไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่กำเนิดป่วยเป็นโรคโปลิโอทำให้ขาซ้ายลีบ เดินไม่ค่อยสะดวก จนกระทั่งอายุได้ 24 ปี ต้องประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์พลิกคว่ำ ส่งผลให้เป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงมาและต้องใช้ชีวิตบนวีลแชร์นับแต่นั้น  

“คนพิการเรามีโอกาสน้อยกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว สมัยก่อนเงินเดือนผม 13,000 บาท พึ่งพารถเมล์ก็ไม่ได้ หมดไปกับค่าแท็กซี่วันละไม่ต่ำกว่า 300 บาท หรือประมาณ 9,000 บาทต่อเดือน ผมเก็บเงินอยู่หลายสิบปี วันหนึ่งกว่าจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองว่าหนักหนาแล้ว ยังไม่วายต้องมาเจอพวกเบียดเบียนอีก” เขาเล่าถึงความลำบากที่ยังไม่หายไปในปัจจุบัน เมื่อยังถูกแย่งที่จอดรถโดยพวกคนมือดีเท้าดีอยู่เรื่อยๆ 

“มันคือการละเมิดสิทธิและผิดกฎหมายครับ” เขาทิ้งท้าย 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ��บว่า ปี 2561 มีการออกใบอนุญาตขับรถใหม่ให้เเก่คนพิการทั่วประเทศ จำนวนรวมทั้งสิ้น 4,161 ราย โดยแบ่งเป็นผู้พิการหูหนวก 723 ราย พิการทางสายตา 1,906 และพิการเเขนขา 1,532 ราย 


1237003 (1).jpg

กฎหมายกำหนดว่าอย่างไร ?

ตามกฎกกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ. 2548 ไว้ดังนี้ 

ข้อ 23 อาคารตามต้องจัดให้มีที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา อย่างน้อยตามอัตราส่วน ดังนี้

(1) ถ้าจำนวนที่จอดรถตั้งแต่ 10 คัน แต่ไม่เกิน 50 คัน ให้มีที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราอย่างน้อย 1 คัน

(2) ถ้าจำนวนที่จอดรถตั้งแต่ 51 คัน แต่ไม่เกิน 100 คัน ให้มีที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราอย่างน้อย 2 คัน

(3) ถ้าจำนวนที่จอดรถตั้งแต่ 101 คัน ขึ้นไป ให้มีที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราอย่างน้อย 2 คัน และเพิ่มขึ้นอีก 1 คัน สำหรับทุก ๆ จำนวนรถ 100 คันที่เพิ่มขึ้น เศษของ 100 คัน ถ้าเกินกว่า 50 คัน ให้คิดเป็น 100 คัน

  • ที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราให้จัดไว้ใกล้ทางเข้าออกอาคารให้มากที่สุด มีลักษณะไม่ขนานกับทางเดินรถ มีพื้นผิวเรียบ มีระดับเสมอกัน และมีสัญลักษณ์รูปผู้พิการนั่งเก้าอี้ล้ออยู่บนพื้นของที่จอดรถด้านที่ติดกับทางเดินรถ มีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 900 มิลลิเมตร และยาวไม่น้อยกว่า 900 มิลลิเมตร และมีป้ายขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 300 มิลลิเมตร และยาวไม่น้อยกว่า 300 มิลลิเมตร ติดอยู่สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 2,000 มิลลิเมตร ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน
  • ที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราต้องเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างไม่น้อยกว่า 2,400 มิลลิเมตร และยาวไม่น้อยกว่า 6,000 มิลลิเมตร และจัดให้มีที่ว่างข้างที่จอดรถกว้างไม่น้อยกว่า 1,000 มิลลิเมตร ตลอดความยาวของที่จอดรถ โดยที่ว่างดังกล่าวต้องมีลักษณะพื้นผิวเรียบและมีระดับเสมอกับที่จอดรถ
วรรณโชค ไชยสะอาด
ผู้สื่อข่าวสังคม Voice Online
118Article
0Video
0Blog