ในวันที่อาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน อันเดรีย นาฮ์เลิส หัวหน้าพรรคโซเชียลเดโมแครตส์ หรือเอสพีดี (Social Democratic Party: SPD) พรรคร่วมรัฐบาลในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคล ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังเสียงสนับสนุนตกลงอย่างมา
การลาออกของเธอสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลแมร์เคิลอย่างยิ่ง โดยหัวหน้าพรรคคนใหม่ของเอสพีดีซึ่งอาจมีอุดมการณ์เอียงซ้ายมากกว่านาฮ์เลิส มีความเป็นไปได้ที่จะนำพรรคฝ่ายซ้ายกลางออกจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคอนุรักษนิยมของแมร์เคิล และยุติบทบาทนายกรัฐมนตรีของเธอได้
รัฐบาลผสมระหว่างพรรคคริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน หรือซีดียู (Christian Democratic Union: CDU) ของแมร์เคิล และพรรคซีพีดีนั้นเปราะบางมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว โดยแต่เดิมพรรคซีพีดีตั้งใจจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหลังแพ้การเลือกตั้งในปี 2017 แต่ทว่าท้ายที่สุดก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น
อันเดรีย นาฮ์เลิส เป็นหัวหน้าพรรคหญิงคนแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคเอสพีดีในปี 1863 โดยเธอได้รับเลือกเมื่อเดือนเมษายน 2018 ด้วยความหวังว่าจะกอบกู้พรรคฝ่ายซ้ายกลางนี้ที่ได้รับเสียงสนับสนุนต่ำที่สุดในรอบ 155 ปี เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2017
ทว่าระยะเวลาหนึ่งปีกว่าภายใต้การนำของเธอ ความนิยมของพรรคกลับตกฮวบลงอีก โดยในการเลือกตั้งสภายุโรปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคซีพีดีได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศเพียง 15.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่เคยมีมาของพรรค ขณะที่พร้อมกันกับที่พรรคซีดีพีของเมอร์เคิลก็ได้รับเสียงสนุนต่ำลงเหลือเพียง 28.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคกรีนส์ (Greens) ได้รับเสียงจากคนรุ่นใหม่รวมแล้วถึง 20.5 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นเป็นพรรคอันดับสองแทนเอสพีดี
“จากการหารือภายในสภาและกระแสตอบรับล้นหลามจากทางพรรค ทำให้ฉันพบแล้วว่าฉันไม่เหลือเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งต่อไปได้อีกแล้ว” นาฮ์เลิส ระบุในแถลง พร้อมประกาศว่าจะลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ และออกจากตำแหน่งประธานสภาในวันอังคารนี้
ที่มา: NYTimes / DW / The Guardian