เชนบัม ซึ่งเคยได้รับการฝึกหัดเป็นนักวิทยาศาสตร์ในวัย 61 ปี เป็นพันธมิตรทางการเมืองใกล้ชิดของ อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายของเม็กซิโกคนปัจจุบัน โดยในการรณรงค์หาเสียง เชนบัมกล่าวกับผู้สนับสนุนระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ว่า “เราจะชนะในปี 2567”
พรรคโมเรนา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายของเม็กซิโกประกาศว่า เชนบัมเอาชนะผู้ท้าชิงตำแหน่งแครดิเดตพรรคอีก 5 คน ผ่านการลงคะแนนเสียงทั้งหมด 5 ครั้ง คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยประมาณ 39%
ทั้งนี้ เชนบัมมีประวัติเป็นผู้นำนักศึกษาเม็กซิโกในช่วงทศวรรษที่ 1980 เธอยังเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการด้านสิ่งแวดล้อมของเม็กซิโกซิตี้ ในสมัยที่ โลเปซ โอบราดอร์ ยังดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองระหว่างปี 2543 ถึง 2548 โดยต่อมา เธอได้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเม็กซิโกซิตี้ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงต้นปีนี้ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเม็กซิโก
“สาวๆ เห็นตัวอย่างในตัวดิฉัน” เชนบัมกล่าวกับนิตยสารกาโตปาร์โด “การเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกจะถือเป็นประวัติศาสตร์ในประเทศของเรา”
จากผลสำรวจในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า เชนบัมมีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับแรก โดยเป็นคะแนนนิยมส่วนหนึ่งของ โลเปซ โอบราดอร์ ที่มีคะแนนนิยมมากกว่า 60% ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญเม็กซิโกกำหนดให้ โลเปซ โอบราดอร์ ต้องหมดวาระจากตำแหน่งประธานาธิบดีเม็กซิโกลง หลังจากเขาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมา 6 ปี
อย่างไรก็ดี กัลเวซ ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาหญิง ที่มีลักษณะเป็นคนพูดตรงไปตรงมา และมีเชื้อสายเป็นชนพื้นเมืองของเม็กซิโก ได้ลงรับเลือกตั้งเพื่อแข่งขันกับเชนบัม ทั้งนี้ กัลเวซ ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้าน มักสวมเสื้อผ้าชนพื้นเมือง เธอยังมีลักษณะเป็นคนพูดจาด้วยภาษาปากเข้าใจง่าย และเธอมักถูกพบเห็นปั่นจักรยานรอบๆ เมืองเม็กซิโกซิตี้ นอกจากนี้ กัลเวซยังได้รับการชื่นชมว่าเป็นคนมีไหวพริบ และมีนิสัยเป็นคนติดดิน ซึ่งเธอได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นแรงงานและชาวเม็กซิกันรุ่นใหม่
กัลเวซเผชิญหน้าและวิจารณ์ประธานาธิบดีเม็กซิโกอยู่หลายครั้งในประเด็นต่างๆ รวมถึงประเด็นปัญหาเหตุการใช้ความรุนแรงที่เกิดบ่อยครั้งในเม็กซิโก เธอยังเผชิญหน้ากับกลุ่มอาชญากรของเม็กซิโก ด้วยการวิจารณ์ว่ากลุ่มอาชญากร "จำเป็นต้องมีรังไข่" อย่างไรก็ดี โลเปซ โอบราดอร์ กล่าวหาว่ากัลเวซเป็นผู้สมัครของคนรวย “ผู้มีอำนาจ” และเป็นพวก “อนุรักษ์นิยม”
ที่มา: