วันนี้ (13 กันยายน 2568) ที่หมู่บ้านชาวเลราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้นำชุมชนและประชาชน โดยมี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 8 (สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค8) โดย นายโชติพันธ์ จุลเพชร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 8, นายปริญญา ศรีธัญญแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต, นายวิเชียร ไชยสอน ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต, นายธิติ บุณยัษเฐียร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองภูเก็ต, นายจรุง เถาว์จันทร์ กำนันตำบลราไวย์, พ.ต.ท.ภูเอก มุสิกวงษ์ สารวัตรสืบสวน สภ.ฉลอง, นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาชน เข้าร่วมให้ข้อมูล พร้อมด้วย
[ปัญหาที่ซับซ้อน: ยาเสพติด สังคม และการศึกษา]
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับฟังบรรยายสรุปจาก นายธิติ บุณยัษเฐียร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองภูเก็ต ในฐานะผู้ชี้แจงสถานการณ์ โดยระบุว่า ชุมชนชาวเลราไวย์มีประชากรประมาณ 960 คน และกำลังเผชิญกับปัญหายาเสพติดที่ซับซ้อน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา
สถานการณ์น่าเป็นห่วง: มีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้กว่า 70 ราย โดยมีเด็กอายุ 13 ปีเป็นผู้จำหน่ายและผู้เสพที่อายุน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่ายาเสพติดถูกลำเลียงเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหมู่บ้านชาวประมงที่หนาแน่นทำให้การเข้าตรวจค้นเป็นไปได้ยาก
รากของปัญหา: สาเหตุหลักมาจากปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษาและมีพ่อแม่เข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ทำให้ถูกชักจูงเข้าสู่วงจรการค้าได้ง่าย
ความพยายามของชุมชน: ทางฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะทางอำเภอ พยายามนำเด็กเหล่านี้กลับสู่ระบบการศึกษานอกโรงเรียนและฝึกอาชีพ โดยสามารถช่วยเหลือเด็กให้กลับมามีอาชีพที่สุจริตได้แล้วประมาณ 7 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง
[หาทางออกอย่างยั่งยืน]
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาในชุมชนแห่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่เป็นปัญหาสังคมที่เชื่อมโยงกัน ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย อาชีพ รายได้ และโอกาส โดยเฉพาะปัญหาที่ดินของชาวเลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเคยเข้ามาดูแล แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้ชาวบ้านขาดความมั่นคงในชีวิต
ต้นแบบการแก้ไขปัญหา: รัฐมนตรีทวีเสนอให้ใช้ชุมชนราไวย์เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเปลี่ยนจากระบบรวมศูนย์เป็นชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านที่ดิน, อาชีพ และรายได้
การศึกษาคือหัวใจ: ที่ประชุมเน้นย้ำถึงการนำการศึกษาเข้ามาสู่ชุมชนให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถแยกแยะถูกผิด และสร้างอาชีพที่สุจริตได้อย่างยั่งยืน
มองภูเก็ตในระดับโลก: พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวทิ้งท้ายว่า ภูเก็ตไม่ใช่แค่พื้นที่ของประเทศไทย แต่เป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก หากสามารถแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้ ภูเก็ตก็จะกลายเป็นเมืองต้นแบบที่น่าอยู่และยั่งยืนอย่างแท้จริง
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาในพื้นที่ราไวย์มีต้นตอมาจากปัญหาสังคม การศึกษา รายได้ และที่อยู่อาศัยที่ซับซ้อน จึงเห็นควรให้ กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินของชาวเลควบคู่ไปกับการทำงานของหน่วยงานในจังหวัด และ ส.ส. ในพื้นที่ เพื่อให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและเข้าถึงสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ราไวย์อย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนชาวเลอย่างยั่งยืนต่อไป รวมถึง การนำนโยบาย 6 อ. ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คือ 1. อาหาร 2. อาศัย 3. อนามัย 4. โอกาส 5. อาชีพ 6. อัตลักษณ์ และการปราศจากความอยุติธรรมมาเป็นหลักปฏิบัติ ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนด้วย