เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ จ.นครพนม บรรยากาศการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ์ กันคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพื้นที่ จ.นครพนม จำนวน 12 อำเภอ มี 4 เขตเลือกตั้ง มีจำนวนหน่วย เลือกตั้ง จากทั้งหมด 12 อำเภอ มี 1,133 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 1 มี 177 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 2 มี 278 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 3 มี 277 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 4 มี 301 หน่วย สำหรับพื้นที่ จ.นครพนม มีประชากร จำนวน ทั้งหมด 714,943 ราย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 568,353 ราย คาดว่าจะมีผู้ออกมาเลือกตั้ง ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลการเลือกตั้งจะสามารถรู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ประมาณ 22.00 น.
ขณะเดียวกันในส่วนของผู้สมัครคนสำคัญ แชมป์เก่า ที่น่าจับตามอง ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตที่ตัวเองลงสมัคร ส.ส.ได้ เนื่องจากเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งส.ส. ในเขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่ อ.ศรีสงครามที่เคยเป็น ส.ส. แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ย้ายข้ามเขต มาลงสมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อ.เมืองนครพนม แต่ยังไม่มีการย้ายที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร มาในพื้นที่เขต 2 ทำให้ต้องใช้สิทธิ์ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ 7 ในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม โดยมีภรรยา คือ พูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม พรรคภูมิใจไทย เดินทางไปใช้สิทธิด้วยกัน
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ผู้สมัคร ส.ส. คนสำคัญ แชมป์เก่า คือ มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้ถือฤกษ์เวลา 09.00 น. พร้อมสวมเสื้อสีแดง ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้ง วัดพระอินทร์แปลง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นับเป็นเขตเลือกตั้งที่ มีการจับตามากที่สุด เนื่องจากเป็นการแข่งขัน ระหว่างแชมป์เก่า เขต 1 คือ ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ที่ย้ายข้ามเขตมาชนกับ ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย กลายเป็นศึกแชมป์ชนแชมป์ สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3-4 ยังคงเป็นการแข่งขันระหว่างแชมป์เก่าพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจ ที่เคยมีคะแนนนิยม สูสีมาตลอด