เมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการสมาคมฯชุดปี 2561 และคณะกรรมการสมาคมฯชุดปี 2562 ได้ตรวจสอบพบเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 16.00 น.ว่า เจ้าหน้าที่สมาคมฯ รายหนึ่ง ได้กระทำความผิดอาญาฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสารเพื่อเบียดบังเอาเงินในบัญชีเงินฝากของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจไปโดยทุจริต
ในการนี้ ทางคณะกรรมการสมาคมฯ ได้เรียกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินของสมาคมฯ มาสอบถาม และเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการปลอมเอกสารเพื่อเบิกเงินออกมาจากบัญชีเงินฝากของสมาคมฯ และยักยอกเงินดังกล่าวไปโดยทุจริตจริง โดยเป็นการกระทำหลายกรรมหลายวาระ
ขณะนี้ คณะกรรมการสมาคมฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบยอดความเสียหายทั้งหมด และได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ ชุดปี 2561 ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 เพื่อดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด และเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งทั้งหมด
คณะกรรมการสมาคมฯ ได้มีคำสั่งไล่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกจากการเป็นลูกจ้างแล้ว มีผลวันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นับแต่วันดังกล่าวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องอย่างใดๆ กับทางสมาคมฯ อีกต่อไปไม่ว่าในฐานะใด หากมีการไปก่อความเสียหายอย่างใดๆ โดยแอบอ้างชื่อสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างใดๆ ในกรณีนี้เพิ่มเติม จะเรียนแจ้งให้ทราบเป็นระยะ จึงนำเรียนสมาชิกและพันธมิตรของสมาคมฯ เพื่อทราบ ทางคณะกรรมการสมาคมฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ด้านสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า มีการส่งข้อมูลตามไลน์ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้สมาคมฯ มีการตรวจพบการทุจริตยักยอกและปลอมแปลงเอกสารเบิกเงินใช้จ่ายในบัญชีของสมาคมฯ ในช่วงปี 2560-2561 เกินกว่า 15-17 ล้านบาท ถูกถอนจากบัญชีสมาคมฯ ไปใช้ส่วนตัวและเหลือเงินในบัญชีขณะนี้เพียงแค่ 500 บาทเศษ