ไม่พบผลการค้นหา
นักวิชาการชี้ไทยสวนทางสากล ใช้นโยบายความเร็วไม่ถึง 90กม./ชม.ห้ามใช้ช่องจราจรขวาสุด เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ระบุถนนไทยยังไม่พร้อม

ดร.กัณวีร์ กนิษฐพงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงคมนาคมเตรียมออกนโยบายการขยายอัตราความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. และพิจารณาบังคับให้ผู้ที่ขับรถในอัตราความเร็วไม่ถึง 90 กม./ชม. ห้ามใช้ช่องจราจรทางด้านขวาสุด ในเส้นทางที่มี 4 ช่อง จราจรขึ้นไป ที่กำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 90 กม./ชม.ทั่วประเทศ โดยระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาจราจร ว่า จากการติดตามยังไม่เห็นชัดเจนว่าจะใช้ถนนเส้นใดจะสามารถทำได้ เพราะหากถนนยังมีจุดกลับรถ รถจะต้องชะลอ และหากบังคับให้ใช้ความเร็วเกิน 90 กม./ชม. ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ 

"ในภาพรวมถนนในประเทศไทยยังมองไม่เห็นว่ามีเส้นไหนพร้อม ไม่ว่าจะเป็นสายหลักๆ ที่วิ่งระหว่างภาค หากจะทำให้เป็นถนนปลอดภัยจริงๆ ต้องปิดจุดกลับรถ ปิดซอยตัด ไม่ให้ชาวบ้านลัดข้ามถนนมา ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เนื่องจากเพิ่มความเร็ว ตามหลักการแล้วยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุสูง นอกจากนี้ยังสวนทางกับสากลที่พยายามให้การขับขี่ลดความเร็ว เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ " ดร.กรวีร์ กล่าว 

ดร.กรวีร์ กล่าวด้วยว่า การขับรถด้วยความเร็ว แม้ว่าจะพยายามทำให้ถนนมีความปลอดภัย โดยไม่มีสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคอื่นๆ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้จากความเร็ว อาทิ ฝนตกถนนลื่นหากขับโดยใช้ความเร็วอาจเสียหลักเวลาเบรกได้ หรือ แม้กระทั่งคนขับหากพักผ่อนน้อย อาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลงได้เช่นกัน และที่สำคัญหากใช้ความเร็วขับรถแล้วพุ่งชนกับแผงกันจราจร หรือ แบริเออร์ หากเป็นวัสดุแข็งอย่างคอนกรีต เมื่อชนด้วยความเร็วทำให้บาดเจ็บหนักได้