เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ห้องเทมเทชั่น – ซีเอ็มทู โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ สยามสแควร์ ครอบครัว ปรมีศณาภรณ์ ซึ่งเป็นครอบครัวของ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความและโจทก์ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตภายในศาลจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 จากกรณีข้อพิพาทเรื่องมรดกที่ดิน 3,800 ไร่ โดย นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยาของนายบัญชา และผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงจากเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องผลประโยชน์หรือส่วนแบ่งที่ดินแต่อย่างใด ทำหน้าที่เป็นเพียงทนายความเท่านั้น ข่าวการโจมตีว่ามีส่วนรู้เห็นฉ้อโกงที่ดินหรือสร้างเอกสารปลอมไม่เป็นความจริง 

ส่วนเหตุผลที่ตนเพิ่งมาชี้แจง เป็นเพราะรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล หลังได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการถูกยิง 2 นัด โดยต้องตัดม้าม เย็บกระเพาะ ตัดลำไส้ และรักษาหลอดเลือดบริเวณเท้า 

นายปิยกร ปรมีศณาภรณ์ บุตรชายนายบัญชา บอกว่า คุณพ่อได้รับการแต่งจาก นายบุญช่วย เจริญสถาพร ให้เป็นทนายความเมื่อปี 2550 ไม่มีผลประโยชน์เรื่องที่ดินหรือเรื่องมิชอบอื่นใด ขอความเป็นธรรมจากสังคมให้กับครอบครัวและคุณพ่อด้วย โดยหลักฐานจากศาล แสดงให้เห็นชัดเจนว่าคุณพ่อทำหน้าที่ทนายอย่างมืออาชีพ 

“พ่อมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะทนายความเท่านั้น และเดินทางไปจังหวัดจันทบุรีเพียง 3 ครั้ง ส่วนคุณแม่ก็ไม่ได้เป็นญาติกับฝ่ายใด”

น.ส.โชติรส ปรมีศณาภรณ์ บุตรสาวนายบัญชา กล่าวว่า ตามที่มีการกล่าวหาว่าคุณพ่อมีเจตนาแอบแฝงในการเข้ามาทำคดีเพื่อหวังประโยชน์จากที่ดิน ไม่เป็นความจริง คุณพ่อและทีมทนาย ทำคดีด้วยความสุจริตตามมาตรฐานวิชาชีพทนาย เป็นไปตามพยานหลักฐาน ดังปรากฎในคำพิพากษาของศาลฎีกา 

แจงที่ดินไม่ใช่มรดก

น.ส.วิลาวรรณ์ คงบุตร ทนายความของ นายบุญช่วย เจริญสถาพร กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเรื่องราวฟ้องร้องเมื่อปี 2554 กับคู่กรณี คือ นางภาพร อุดมโพธิพร และ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ฝ่ายเราชนะให้ข้อพิพาทเรื่องที่ดินทั้งหมด 3 ศาล โดยศาลฎีกาพิพากษาเมื่อปี 2559 ว่าที่ดินไม่ใช่มรดกของนายสมพล โกศลานันท์ แต่มีการซื้อขายที่ดินให้กับนายบุญช่วยแล้วจริง 

“ที่ดินไม่ใช่มรดก เเต่ซื้อขายและส่งมอบกันตั้งเเต่แรกเมื่อปี 2515” น.ส.วิลาวรรณ์ยืนยันและว่า ภาพรวมคดีที่ศาลจังหวัดจันทบุรี ทั้งหมด 8 คดี น.ส.เขมจิรา ฟ้องฝ่ายตน 4 คดี ศาลยกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้วทั้งหมด เหลือ 3 คดีที่ฝ่ายเราคือ นายบุญช่วยและนายบัญชา เป็นโจทย์ฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จทั้งหมด 

ทนายความสาว ย้ำว่า คดีเหตุนองเลือด เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ใช่ปัญหาพิพาทเรื่องที่ดิน เพราะสิ้นสุดไปแล้ว แต่เป็นการฟ้องกลับคดีอาญาในข้อหาฟ้องเท็จ ซึ่งอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย จนกระทั่งนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด 

น.ส.วิลาวรรณ์ กล่าวว่า สำหรับนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

“ขอชี้แจงว่า ธนากร เป็นนักศึกษากฎหมายที่เพิ่งเรียนจบใหม่ และต้องการประสบการณ์ในการเป็นทนายความ จึงขอติดตามดูกระบวนการพิจารณา ไม่ใช่มือปืนส่วนตัวหรือบอดี้การ์ดของทนายบัญชาตามที่มีการพูดถึง” น.ส.วิลาวรรณ์ กล่าว 

ยันไม่ได้ยักยอกมูลนิธิฯ 

น.ส.วิลาวรรณ์ ระบุว่า หลังจาก 4 คดีที่ น.ส.เขมจิรา เป็นโจทก์คดีถึงที่สุดยกฟ้องทุกสำนวน น.ส.เขมจิราและพวกได้ทำหนังสือถึงมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ให้ตรวจสอบที่ดิน 3,800 ไร่ อ้างว่าเป็นของมูลนิธิฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้ามาดูแลเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามถึงขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานชี้ได้ว่า ‘นายบุญช่วย’ ยักยอกที่ดินแต่อย่างใด 

“ที่ผ่านมาคุณเขมจิรายืนยันมาตลอดว่า ที่ดินเป็นทรัพย์มรดกของคุณสมพล ที่อาจตกได้แก่ทางคุณเขมจิราได้ ไม่เคยมีการต่อสู้หรืออ้างข้อเท็จจริงว่าที่ดินเป็นของมูลนิธิฯ เป็นของพระ ของสงฆ์เหมือนที่กล่าวอ้างในข่าวทุกวันนี้เลย” น.ส.วิลาวรรณ์ ตั้งข้อสังเกตถึงการกระทำของอีกฝ่าย ที่เปลี่ยนการตั้งฐานสิทธิจากเดิม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เลขาฯ ศาลยุติธรรมเผยช่องว่างอดีตตำรวจก่อเหตุยิงศาล จ.จันทบุรี