เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 22 ก.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ เทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทย ตามคำเชิญเพื่อหาทหารือทางออกประเทศ โดยมีภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม สุวัจน์ ว่ารู้สึกอย่างไร สุวัจน์ระบุว่า เคยอยู่ที่นี่เหมือนกัน เหมือนกลับบ้าน มาเที่ยวบ้าน ก่อนชำเลืองตามองบรรยากาศภายในตึกพรรคเพื่อไทย โดย ภูมิธรรม ได้ตอบกลับไปว่า “เหมือนกลับบ้านเก่า” จนเรียกเสียงหัวเราะในวงสนทนาได้ 

เมื่อถามว่า ได้วางแนวทางไว้อย่างไรบ้าง สุวัจน์ กล่าวว่า เดี๋ยวคุยกัน เดี๋ยวไปหารือกัน ก่อนที่จะฝ่าวง สัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวเพื่อเดินขึ้นลิฟต์ไปในทันที 

ภายหลังพรรคเพื่อไทยหารือกับพรรคชาติพัฒนากล้า ประเด็นการหาทางออกให้กับประเทศ นั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมถึง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ เทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมแถลงข่าว

นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยขอบคุณคณะพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ได้ตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือแก้ปัญหาให้บ้านเมือง โดยพรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคที่ 2 ที่พรรคเพื่อไทยได้มีการเชิญมาพูดคุย หลังจากพรรคก้าวไกล ได้มอบหมายให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล 

ขณะที่ สุวัจน์ ระบุว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำทั้ง 8 พรรคที่เชิญ พรรคชาติพัฒนากล้ามาพูดคุย ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการเชิญครั้งที่ 2 ทั้งนี้ก่อนที่จะมาหารือ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยมีมติในจุดยืน คือยินดีสนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ แต่พรรคชาติพัฒนากล้า มียโยบายสำคัญ 4 เรื่องที่เป็นเงื่อนไขสำคัญ คือ 

1.สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมากไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย 2.สนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล หากไม่ได้ก็ไล่ลำดับตามลงมา 3.อยากให้มีการเร่งรัดในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ 4.พรรคชาติพัฒนากล้าขอคงไว้ไม่แก้ไข ม.112

ทั้งนี้หลังจากเปลี่ยนแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย ชาติพัฒนากล้า มีความเชื่อมั่นและมีแนวทางที่ตรงกันตามเงื่อนไข ยกเว้นเรื่อง มาตรา 112 ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้า จึงพร้อมเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่หากยังมีเงื่อนไข มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ก็คงไม่สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งหากพรรคก้าวไกลยอมถอย ก็สามารถพูดคุยกันได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้พา สุวัจน์ ไปชิมเครื่องดื่มมินต์ช็อค เมนูขึ้นชื่อภายในร้านกาแฟของพรรคเพื่อไทย ก่อนทำท่าชนแก้วร่วมกัน พร้อมกล่าวว่า ขอให้การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จเพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีมาแก้ไขปัญหาประเทศโดยเร็ว 

ก่อนที่ นพ.ชลน่าน ได้ชวนให้ สุวัจน์ ทดลองปิดโลโก้บนแก้วน้ำที่เขียนว่า Think lab ให้กลายเป็นคำว่า “ink” จนเรียกเสียงฮือฮา 

เมื่อถามว่า รับหลักการมินต์ช็อกหรือไม่ สุวัจน์ ระบุว่าหากรับหลักการคงต้องมากินทุกวัน ทั้งนี้ สุวัจน์ ยังให้คะแนนรสชาติมิ้นต์ช็อก ถึง 9.5 คะแนน 

ด้าน ประเสริฐ ระบุด้วยว่า วันพรุ่งนี้ 23 ก.ค. เวลา 14.00 น. พรรคเพื่อไทย จะมีการหารือกับพรรคชาติไทยพัฒนา