ไม่พบผลการค้นหา
เตรียมองค์ประชุมสำรองอีก 150 เชื่อไม่มีองค์ประชุมล่ม เหมือน 2 ครั้งก่อน เมื่อได้หัวหน้าพรรคแล้วจะเป็นฝ่ายค้านต่อ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงแนวทางการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมใหญ่วิสามัญซึ่งจะจัดขึ้นที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการพรรค และรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการจัดเตรียมสถานที่ กำหนดองค์ประชุมตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อที่ 81 และที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองว่าจะต้องมีไม่น้อยกว่า 250 ท่าน 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเตรียมองค์ประชุมไว้เบื้องต้น 346 คน และมีมติของรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคที่ให้มีการกำหนดองค์ประชุมสำรองอีก 150 ท่าน ซึ่งจะเป็นบุคคลที่จะไปร่วมประชุมเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อที่จะเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

โดยขั้นตอนการเลือกหัวหน้าพรรค จะยุติในวันที่ 9 ต.ค. กล่าวคือ แม้ว่าขณะนี้จะมีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคที่ได้เปิดตัวกับพี่น้องสื่อมวลชนไปบ้างแล้ว และอาจจะมีสมาชิกพรรคท่านอื่นที่ยังไม่เปิดตัวต่อสาธารณะ ซึ่งสมาชิกพรรคทั้งที่มีการเปิดตัว และยังไม่ได้เปิดตัวต่อสาธารณะขณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้แสดงเจตจำนงในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่เรียกว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการตามข้อบังคับพรรคก่อน 

ในวันที่ 9 ธ.ค. เมื่อมีการเปิดประชุมแล้ว จะมีการการเข้าสู่ระเบียบวาระของการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็จะมีสมาชิกซึ่งเป็นองค์ประชุมเสนอชื่อของผู้แสดงเจตจำนง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งต่อที่ประชุม พร้อมกับจะต้องมีผู้รับรอง และเมื่อมีการตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้อง ก็จะหมายความว่า ผู้แสดงเจตจำนงเหล่านั้น ก็จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรค อย่างเป็นทางการ

“ผมมีความมั่นใจว่าในวันที่ 9 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ พรรคจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ และเชื่อมั่นว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะนำพาพรรคก้าวเดินต่อไปในอนาคต และก็เชื่อมั่นด้วยความเป็นสถาบันทางการเมือง บุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องยึดหลักการของพรรคมุ่งมั่นฟื้นฟูพัฒนาพรรคให้เข้ากับสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดก็จะมาเป็นผู้นำในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนและประเทศ เป็นผู้นำพาพรรคให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาพรรคให้มีความยั่งยืนในอนาคตต่อไป” ราเมศ กล่าว

นอกจากนี้ ราเมศ ยังระบุอีกว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าพรรคแล้ว ก็ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนและประเทศ พร้อมกับจัดการบริหารพรรคควบคู่กันไป ตั้งแต่เรื่องการปรับปรุงฟื้นฟูพัฒนาพรรคในเรื่องต่างๆ โดยเชื่อว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะนำพาพรรคไปเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้าได้