ต่างประเทศ
ทำให้รัสเซียเป็น “ผู้รุกรานคนสุดท้าย” ‘เซเลนสกี’ วอนชาติ G7 ผนึกกำลังต้านรัสเซีย
ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังจากการประชุม G7 ที่กินเวลานับสัปดาห์ โดยมีชาติต่างๆ ครอบคลุมจากทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย เซเลนสกีกล่าวว่าชัยชนะของยูเครนต่อรัสเซีย จะยับยั้งไม่ให้เกิดผู้รุกรานรายอื่นๆ ในอนาคต พร้อมกันนี้เซเลนสกีชี้ว่าแผนสันติภาพ 10 ประการของเขาเป็น “ทางรอดจากสงคราม” ของโลก
แผนสันติภาพ 10 ประการของเซเลนสกี ถูกเสนอออกมาครั้งแรกในเดือน พ.ย. ในการฟื้นฟูพรมแดนของยูเครน และเรียกร้องถึงการถอนกองกำลังรัสเซียออกจากดินแดนของยูเครน รวมทั้งรับประกันความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ พลังงาน และอาหาร
“เราจะทำให้ผู้รุกรานคนอื่นๆ สิ้นกำลังลง” เซเลนสกีกล่าวในการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ที่เมืองฮิโรชิมา “เมื่อทุกคนที่ต้องการทำสงครามเห็นว่า โลกต้องการสันติภาพเพียงใด มันจะไม่มีประเด็นใดในการเริ่มสงคราม” นอกจากนี้ เซเลนสกียังร้องขอให้ชาติพันธมิตรเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และระดมการสนับสนุนมาแก่ยูเครน
ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศชุดความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 375 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท) ซึ่งรวมถึงกระสุน ปืนใหญ่ และรถหุ้มเกราะเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเสนอการสนับสนุนสำหรับการฝึกนักบินยูเครนให้บินเครื่องบินรบ F-16
เมื่อวันศุกร์ (19 พ.ค.) ผู้นำกลุ่ม G7 ให้คำมั่นที่จะยกระดับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียและสนับสนุนยูเครนต่อไปในระยะยาว โดยสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อชาวรัสเซีย 22 รายและนิติบุคคลของรัสเซีย 104 ราย ขณะที่ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศการห้ามนำเข้าเพชร ทองแดง อะลูมิเนียม ดีบุก และนิกเกิลจากรัสเซีย นอกจากนี้ สหภาพยุโรปกำลังเจรจามาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 11 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปิดช่องโหว่และจัดการกับการหลีกเลี่ยงมาตรการที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
ในการกล่าวปราศรัยโดยมีฉากหลังเป็นโดมระเบิดปรมาณูเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพ G7 ระบุว่า การเข้าร่วมการประชุมของเซเลนสกีเป็นหลักฐานแสดงถึง “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ไม่เปลี่ยนแปลง” ของญี่ปุ่นกับยูเครน และคิชิดะได้ประณามการรุกรานของรัสเซียว่าเป็นการจู่โจมโดยตรงต่อ “รากฐานที่ดีของระเบียบระหว่างประเทศ”
การเยือนญี่ปุ่นของเซเลนสกี เน้นย้ำให้เห็นถึงการแบ่งฝักฝ่ายที่ขัดขวางการสร้างแนวร่วมต่อต้านรัสเซีย และผู้นำยูเครนเองกลับไม่ได้รับทุกสิ่งที่เขาต้องการในฮิโรชิมา โดยถึงแม้ว่ากลุ่ม G7 จะยังคงมีอิทธิพล แต่ชาติ G7 มีส่วนแบ่งเศรษฐกิจโลกที่ลดลงจากประมาณ 70% ในช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็น 44% ในปัจจุบัน
เงื่อนไขดังกล่าวส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบีบบังคับเศรษฐกิจของรัสเซีย ที่จะต้องมีการอาศัยการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากประชาคมระหว่างประเทศในวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ คิชิดะเชิญสมาชิก 8 ชาติที่ไม่ใช่สมาชิก G7 เข้าร่วมการประชุมสุดยอด ซึ่งรวมถึงอินเดีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามส่งเสริมความร่วมมือเกี่ยว กับความท้าทายระดับโลกรวมถึงสงครามในยูเครน
นับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้น อินเดีย จีน และตุรกี ได้เพิ่มการนำเข้าพลังงานของรัสเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรต่อเศรษฐกิจของรัสเซียจากชาติตะวันตก จนอัตราการส่งออกพลังงานของรัสเซียหดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ 2.1% ในปีที่แล้ว โดยในขณะที่เซเลนสกีเข้าพบกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ผู้ซึ่งให้คำมั่นว่าจะทำ “ทุกสิ่งที่เราทำได้” เพื่อแก้ไขวิกฤตยูเครน แต่อินเดียกลับไม่มีข้อบ่งชี้ว่าพวกเขาจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหรือลดการซื้อพลังงานของรัสเซีย
อย่างไรก็ดี เซเลนสกีไม่ได้พบกับ ลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล หรือ ลูลา ซึ่งกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า "ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดว่าใครเป็นฝ่ายถูก" ในความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน โดยประธานาธิบดียูเครนระบุว่า การไม่ได้พบกันของเขากับลูลา เป็นประเด็นของการจัดตารางเวลา “ผมคิดว่ามันทำให้เขาผิดหวัง” เซเลนสกีกล่าวเมื่อถูกถามว่าเขาผิดหวังหรือไม่ที่ไม่ได้พบกับลูลา ทำให้เกิดเสียงหัวเราะท่ามกลางสื่อมวลชน
ทั้งนี้ เซเลนสกียอมรับเช่นกันว่า เขาต้องการเห็นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จัดหาอาวุธให้ยูเครน รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่สามารถทำได้ แต่ประธานาธิบดียูเครนยอมรับว่า "ความซับซ้อนทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญ" ทำให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวยากสำหรับบางรัฐบาล
นอกจากนี้ เซเลนสกีแสดงความมั่นใจว่าประเทศของเขาจะได้รับเครื่องบินรบ F-16 จากประเทศตะวันตก แม้ว่ายูเครนจะยังไม่ได้รับคำสัญญาว่าจะได่รับการส่งมอบเครื่องบินก็ตาม แม้หมู่สมาชิก G7 ยังคงมีช่องว่างในความพยายามในการคว่ำบาตรต่อรัสเซียที่ยังคงต้านทานชาติตะวันตคกอยู่
ถึงกระนั้น เซเลนสกีได้ปิดฉากการเดินทางเยือนญี่ปุ่น โดยแสดงความเชื่อของเขาว่ารัสเซีย “ไม่สามารถชนะ” สงครามของตัวเอง และ “กฎหมายระหว่างประเทศจะไม่ถูกนำมาใช้อีก” หากรัสเซียไม่หยุดการรุกราน “ผมเชื่อว่าสงครามไม่มีที่ทางอยู่ในโลก” เซเลนสกีกล่าว
ที่มา:
