6 เม.ย.67 พรรคก้าวไกล จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 ณ โรงแรมเมเปิล บางนา กรุงเทพฯ โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวเปิดการประชุมว่า การประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกหลังการเลือกตั้งใหญ่ นับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาพรรคก้าวไกล เรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทุกองคาพยพทำงานอย่างหนักตั้งแต่ระดับพื้นที่และระดับชาติ พิสูจน์ตนเองกับพี่น้องประชาชน เป็นผลสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้เราประสบผลสำเร็จในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาด้วยชัยชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่งด้วย สส. 151 ที่นั่ง

หลังการเลือกตั้ง ผลสำรวจพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับการเมืองและตำแหน่งผู้นำประเทศ พรรคก้าวไกลได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแผ่ว จนวันนี้นักวิเคราะห์การเมืองมีข้อสังเกตว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคที่ครองความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประกอบกับผลสำรวจความเห็นของประชาชนหลังการเลือกตั้ง สะท้อนว่า การเมืองแบบอนาคตใหม่ การเมืองแบบก้าวไกลเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการ การเมืองแบบก้าวไกลที่ก่อนหน้านี้ประชาชนไม่เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในสังคมไทย เพราะสังคมไทยไม่เชื่อว่าการเมืองที่ไม่ใช้อำนาจ ไม่ใช้อิทธิพล ไม่มีระบบอุปถัมภ์ และไม่ใช้เงินทองในการซื้อเสียงจะสามารถชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งได้ แต่ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทำลายความคิดนี้ไปแล้ว

การเมืองแบบก้าวไกลที่ให้ความสำคัญกับความคิดและการนำเสนอนโยบาย การเมืองอย่างตรงไปตรงมา เน้นคุณภาพ การเมืองที่ประชาชนช่วยกันสร้างคนละไม้คนละมือ ประสบความสำเร็จแล้วในสังคมไทย ประชาชนเชื่อมั่นและมีความหวังว่าเราร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศในแบบที่ฝันไว้ในอดีต ผ่านการเมืองในระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของความสำเร็จที่ได้ทำในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้นในสถานการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังเผชิญกับพายุใหญ่ในทางการเมือง คลื่นลมกำลังแรง หลายคนอาจหวั่นไหว พี่น้องประชาชนถามไถ่ทุกวัน แสดงความกังวลใจ เราจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงมาไกลเกินกว่าที่พรรคก้าวไกลจะถอยหลังหรือพ่ายแพ้ สถานการณ์เช่นนี้พวกเราไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะคนที่หวั่นไหวคือคนที่อยากทำลายพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เรา 

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า มาถึงวันนี้ ไม่มีใครสามารถทำลายความคิด ความเชื่อ และความหวังของประชาชนได้อีก ไม่มีใครทำลายหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยได้อีก ภารกิจของพรรคก้าวไกลหลังจากนี้ไม่ใช่การหวั่นไหวมีแต่การเดินหน้าเต็มร้อย มั่นคงแน่วแน่ในเป้าหมายและอุดมการณ์ ทำพรรคก้าวไกลให้แข็งแรงมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ด้วยภารกิจ 3 ประการ

ประการแรก สานต่อปฏิรูปพรรคอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดภายใน คิดค้นแนวทางการทำงานใหม่ เพื่อฝ่าฟันปัญหาและความท้าทายนำไปสู่เป้าหมายทำพรรคก้าวไกลเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน

ประการที่ 2 เดินหน้าเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เตรียมพร้อมเป็นพรรคการเมืองและรัฐบาลที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยระหว่างที่เป็นฝ่ายค้านจะใช้กลไกทุกพื้นที่ทั้งในสภาและนอกสภา ผลักดันวาระที่ก้าวหน้า เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน เตรียมพร้อมบุคลากร นโยบายเชิงปฏิบัติ และโรดแมป

ประการสุดท้าย ทุกองคาพยพต้องช่วยกันทำงานอย่างสุดความสามารถ พิสูจน์ด้วยการทำงานให้สังคมเห็นว่า พรรคก้าวไกลไม่ใช่ภัยคุกคามของสังคมไทย พรรคก้าวไกลเท่านั้นเป็นคำตอบสุดท้าย และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขออย่ากังวล เพราะข้างหน้าจะมีแต่แสงสว่าง  

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญในวันนี้ ไฮไลท์สำคัญคือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคที่หมดวาระตามวงรอบ โดยก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลวางแนวทางว่าจะให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่วันนี้คาดว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะยังคงเหมือนเดิม โดยมีนายชัยธวัช เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล