ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง ขอคนไทยช่วยกันสร้างประเทศสงบสุข มองข้ามเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่ต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว ลั่น ตอนนี้ใช้กฎหมายปกติแล้ว อย่ามาเรียกร้องอีก บอกสื่อขยายขัดแย้ง แต่ท้อไม่ได้หวั่นประเทศไม่เดินหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานเปิดตัว เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network : TRBN) 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การขับเคลื่อนเครือข่ายต่างๆ ต้องมีความร่วมมือกันจากหลายฝ่าย อย่างเช่น โครงการประชารัฐ ซึ่งยืนยันว่า วันนี้ ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นการร่วมมือกันมาก่อนหน้านั้น เพราะทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือ เพราะจากการประชุมร่วมกับ นานาประเทศอาเซียนที่ผ่านมา ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ยอมรับว่า เรื่องกฎหมายในประเทศอาจจะออกยาก เพราะต้องผ่านสภาผู้แทนราษฏร แต่เชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องยาก หากทุกคนเข้าใจเป้าหมายของรัฐบาล เพราะวันนี้จะมาต่อสู้มางการเมืองย่างเดียวไม่ได้ ต้องเอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญด้วย 

พร้อมฝากทุกคนที่เป็นคนไทย ช่วยทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรที่ไม่ใช่ปัญหาหลัก ก็ให้ข้ามไปบ้าง เพราะวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจโลกคือปัญหาที่สำคัญที่สุด 

ขณะเดียวกัน ปัญหาบุกรุกที่ดิน หากจะรื้อทั้งหมดก็จะเกิดปัญหาเพราะอยู่กันมานานแล้ว ดังนั้นการแก้ปัญหาคือการใช้แผนที่ มาตราส่วน 1:4,000 มาใช้ในพื้นที่ ที่ทับซ้อน แก้ปัญหาให้ทุกคนกลับเข้าสู่กฏหมายให้ถูกต้อง ควบคุมได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังทำ รวมถึงป่าชุมชนให้ประชาชนเข้ามาส่วนร่วมในการดูแลป่า 

ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังแก้ปัญหาการจัดตั้งงบประมาณ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทุกประเทศใช้เอกชน เข้ามาขับเคลื่อน เพราะรัฐบาลทำเองไม่ได้ทั้งหมดแต่ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ประเทศมีปัญหาติดขัดหลายอย่าง แม้แต่ มาตรา 88 มาตรา 99 ก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะวันนี้เป็นกฎหมายปกติแล้ว จึงขออย่ามาเรียกร้องอีก ที่ผ่านมาตนเองเป็นนายกฯทำงานด้วยความซื้อสัตย์ สุจริต และกล้าหาร เรียนมาไม่เคยคิดจะมาเป็น ผบ.ทบ. หรือนายก และวันนี้ก็ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร และที่สำคัญทุกคนต้องรู้ว่ามีทหาร ไว้เพื่ออะไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอสื่ออย่าขยายความขัดแย้ง ตนเองเปิดอ่านทุกวันเห็นแล้วก็ท้อ แต่ถ้าท้อบ้านเมืองก็ไปไม่ได้ จึงขออย่าแยกเขี้ยวใส่กันให้มาก เดี๋ยวรอยยิ้มสยามจะหายไป ส่วนกฎหมายคือกฎหมาย ค่อยๆแก้ไปตามกระบวนการ ไม่ใช่การนำปัญหาใหม่เข้ามาเรื่อยๆ แต่ปัญหาเก่าไม่ถูกแก้ยังติดอยู่แบบนี้ และไม่มัวแต่โทษกันไปกันมา 

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนักธุรกิจที่ให้เกียรติ แม้ตนเองไม่ใช่นักธุรกิจ และไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง แต่เป็นนักปฏิบัติ และเมื่อทุกคนเคารพซึ่งกันและกันบ้านเมืองก็ไปได้ พร้อมทั้งหวังว่าไตรมาสแรกในปีหน้าเศษฐกิจจะดีขึ้น ประเทศไทยไม่เคยขัดแย้งกับใคร มีแต่ขัดแย้งกันเอง จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ให้ประเทศมาก่อน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมประชุมหารือถึงการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล และการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ธ.ค. นี้ ว่า ขอดูก่อนว่าจะไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไปอยู่แล้ว ซึ่งถ้าตนไป ตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ยังไม่รู้ว่าจะไปหรือไม่ ขอดูก่อน