ไม่พบผลการค้นหา
วัดฐานเสียงผู้ท้าชิงศึกเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เขต 4 เมื่อตระกูลจันทรสุรินทร์ ต้องรักษาพื้นที่ ส.ส.ให้กับพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ถูกเจาะจากผู้ท้าชิงจากพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับ 'อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์'

เสียงระฆังนับถอยหลังวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 (อำเภอเกาะคา อำเภอเสริมงาม อำเภอสบปราบ อำเภอเถิน และอำเภอแม่พริก) เริ่มขึ้นแล้วนับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. 2563 เป็นวันใช้สิทธิเลือกตั้งเวลา 08.00 - 17.00 น. การเลือกตั้งซ่อมคร้ังนี้ เกิดขึ้นภายหลัง 'อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์' ส.ส.ลำปาง เขต 4 พรรคเพื่อไทย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2563 ในวัย 56 ปี

ทำให้ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน 

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ยังเกิดขึ้นภายใต้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมแก้ไขวิกฤตโรคโควิด-19

โดยสำนักงาน กกต. ได้ชี้แจงว่าการหาเสียงเลือกตั้งให้กระทำได้ตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 68 (2)

ทั้งนี้ ในการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง สำนักงาน กกต.ได้มีมาตรการเพิ่มเติม ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 และประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข 

"ในส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ต่อคน การเว้นระยะห่างระหว่างคน และการกำหนดจุดตรวจคัดกรองพร้อมแอลกอฮอล์เจล เช่น สถานที่และการรับสมัคร การกำหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง การรับมอบวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง การออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง การนับคะแนน และการส่งหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง เป็นต้น ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวข้างต้นไว้พร้อมแล้ว" สำนักงาน กกต. ระบุ

AFP-หย่อนบัตรเลือกตั้ง-หีบบัตร-กกต.jpg

ความพร้อมการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ ส่ง 'วัฒนา สิทธิวัง' ที่เพิ่งพลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับ 'อิทธิรัตน์' ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ลงชิงเก้าอี้ล้างตาอีกครั้ง

ในขณะที่ พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เดิม แม้จะยังไม่สมัคร แต่คาดว่าจะส่งผู้สมัครภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้ 

เป็นที่ชัดเจนว่า จะส่ง 'พินิจ จันทรสุรินทร์' อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ และอดีต รมช.มหาดไทย และเป็นบิดาของ 'อิทธิรัตน์' รวมทั้งมีดีกรีเป็น ส.ส.หลายสมัย ซึ่งเคยเป็น ส.ส.มาตั้งแต่ปี 2518 สอบตกเพียงครั้งเดียวในปี 2522

แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา 'พินิจ' ไม่เคยสอบตกแม้แต่ครั้งเดียว โดยปี 2544 อดีต ส.ส.หลายสมัยผู้นี้ร่วมสังกัดกับพรรคไทยรักไทย รักษาเก้าอี้ ส.ส.ใน จ.ลำปาง ก่อนหลีกทางให้บุตรชาย คือ 'อิทธิรัตน์' และ 'จรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์' สืบทอดตำแหน่ง ส.ส.แทน

หากนับแต่ปี 2544 พื้นที่ จ.ลำปาง ตระกูลจันทรสุรินทร์ ยึดฐานที่มั่นในสภาผู้แทนราษฎรมาโดยตลอด ไม่ว่าจะอยู่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทย ไม่เคยมีครั้งไหนที่สอบตกแม้แต่ครั้งเดียว

ศึกเลือกตั้ง จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 หนนี้ จึงไม่ใช่งานง่ายสำหรับพรรคพลังประชารัฐ

ไม่ง่ายหากดูถสถิติการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562

จ.ลำปาง 4 เขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ยึดครองเก้าอี้ ส.ส.ได้ยกจังหวัด ประกอบด้วย เขต 1 กิตติกร โล่ห์สุนทร เขต 2 ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร เขต 3 จรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ และเขต 4 อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์

ประชุมพรรคเพื่อไทย

ยิ่งเจาะลงไปที่ เขตเลือกตั้งที่ 4 ดูฐานเสียงที่แต่ละพรรคการเมืองได้คะแนนเสียงไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 จะพบว่าพรรคเพื่อไทยแชมป์เก่ามีคะแนนเสียงทิ้งห่างพรรคพลังประชารัฐกว่า 12,000 คะแนน

อันดับ 1 อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ เพื่อไทย 42,984 คะแนน

อันดับ 2 นายวัฒนา สิทธิวัง พลังประชารัฐ 30,368 คะแนน

อันดับ 3 น.ส.พิมดารา ศิริสลุง อนาคตใหม่ 26,471 คะแนน

อันดับ 4 นางสุนี สมมี ภูมิใจไทย 4,243 คะแนน

อันดับ 5 นายญาณวรุตม์ ธรรมชาติ ประชาธิปัตย์ 2,469 คะแนน

อันดับ 6 ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ เสรีรวมไทย 2,466 คะแนน

โดยรองแชมป์เก่า 'วัฒนา สิทธิวัง' ซึ่งได้หมายเลข 1 ในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ประกาศทันทีหลังสมัครรับเลือกตั้งว่า พร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนในเขต 4 และหลังรับสมัครจะลงพื้นที่ทันที โดยจะใช้วิธีแบบเคาะประตูบ้านทุกหลังในเขต และเชื่อว่าประชาชนในเขต 4 พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปกับตัวเอง

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศก่อนรับสมัครเลือกตั้งว่า นายวัฒนาจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน

113365.jpg

(วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 4 พปชร. ลงล้างตาอีกครั้ง)

หากย้อนไปดูศึกล้างตาเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา ใน 4 ครั้งหลัง

ฝ่ายค้านถึงขั้นต้องสูญเสียที่นั่งในสภาถึง 2 ที่นั่ง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ได้เก้าอี้เพิ่มขึ้น 2 ที่นั่ง

ขณะที่ยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งใน 4 ครั้งหลังมากที่สุดเพียงครั้งเดียวในเขตเลือกตั้งที่ 8 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย เทคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ จนได้รับการเลือกตั้ง โดยครั้งนั้นมีผู้มาใช้สิทธิถึงร้อยละ 78.26

ส่วน 3 ครั้งหลังที่ จ.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 จ.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 และ จ.กำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2 ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่าร้อยละ 60 เท่านั้น

ปัจจัยผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจึงทำให้พรรคฝ่ายค้านกังวล และจะใช้ยุทธศาสตร์ให้เจ้าของพื้นที่ลงรักษาฐานที่มั่นเดิม แต่ด้วยการเลือกตั้งซ่อม เป็นการเลือกตั้งเฉพาะกิจ ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งไม่ให้ความสำคัญในการออกไปลงคะแนนเสียง

จึงทำให้ยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่คึกคักเท่ากับการเลือกตั้งทั่วไป 

ยิ่งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์โรคโควิด-19

ทำให้มีความกังวลว่า ศึกชิงเก้าอี้ ส.ส.ภาคเหนือครั้งนี้อาจไม่มีความตื่นตัว

ปัจจัยตรงนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยมีความกังวลไม่น้อย

เป็นความกังวลที่หวั่นจะซ้ำรอย สูญเสียที่นั่งให้กับพรรคพลังประชารัฐ เหมือนครั้งที่เสียที่นั่งในพื้นที่ ขอนแก่น เขต 7

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การพ่ายแพ้ของพรรคฝ่ายค้านในพื้นที่ที่เคยได้รับเลือกตั้ง เพราะไม่สามารถสู้กับอำนาจรัฐของฝ่ายรัฐบาลได้

อิทธิรัตน์ ลำปาง เพื่อไทย 96_895493177544665_1410542812776103936_n.jpg

(อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ส.ส.ลำปาง เขต 4 พรรคเพื่อไทย เสียชีวิตกะทันหัน)

แต่ด้วยอีกปัจจัย ที่ จ.ลำปาง เป็นพื้นที่ฐานเสียงหนาแน่นของพรรคเพื่อไทย

และยังส่งผู้มีบารมี เก๋าประสบการณ์อย่าง 'พินิจ' ลงรักษาพื้นที่ให้กับบุตรชายที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยแล้ว

ต้องบอกว่าไม่ใช่งานง่ายนักสำหรับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีทั้งอำนาจรัฐอยู่ภายในมือ

ยุทธศาสตร์ของฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องรักษายอดที่นั่งในสภาให้คงเดิมที่ตัวเลข 212 เสียง

ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยก็ต้องรักษายอดที่นั่งส.ส.ในสภา ให้ได้เท่าทุนเดิมคือ 135 เสียงเช่นกัน!

  • เลือกตั้งซ่อม 4 ครั้งล่าสุด 

ฝ่ายค้านเสียที่นั่ง ส.ส. 2 ที่นั่ง รัฐบาลได้เพิ่ม 2 ที่นั่ง

26 พ.ค. 2562 จ.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ศรีนวล บุญลือ (อนาคตใหม่) ชนะ (ฝ่ายค้านรักษาพื้นที่ได้) ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ร้อยละ 78.26

อันดับ 1 น.ส.ศรีนวล บุญลือ พรรคอนาคตใหม่ 75,891 คะแนน

อันดับ 2 นายนเรศ ธํารงค์ทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ 27,861 คะแนน

23 ต.ค. 2562 จ.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 เผดิมชัย สะสมทรัพย์ (ชาติไทยพัฒนา) ชนะ (ฝ่ายค้านเสียพื้นที่) ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ร้อยละ 63.43 

อันดับ 1 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา 37,675 คะแนน 

อันดับ 2 ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ 28,216 คะแนน 

22 ธ.ค. 2562 จ.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 สมศักดิ์ คุณเงิน (พลังประชารัฐ) ชนะ (ฝ่ายค้านเสียพื้นที่) ผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 61.38

อันดับ 1 นายสมศักดิ์ คุณเงิน พรรคพลังประชารัฐ 40,252 คะแนน

อันดับ 2 นายธนิก มาสีพิทักษ์ พรรคเพื่อไทย 38,010 คะแนน

23 ก.พ. 2563 จ.กำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2 เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ (พลังประชารัฐ) ชนะ (รัฐบาลรักษาพื้นที่ได้) ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ร้อยละ 62.29

อันดับ 1 นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ พรรคพลังประชารัฐ 45,687 คะแนน 

อันดับ 2 นายกัมพล ปัญกุล พรรคเพื่อไทย 37,989 คะแนน

20 มิ.ย. 2563 จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 พินิจ จันทรสุรินทร์ (เพื่อไทย) ชิงกับ วัฒนา สิทธิวัง (พลังประชารัฐ)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง