นามุกวายา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดที่ทำการคลอดบุตร กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า การให้กำเนิดลูกแฝดในครั้งนี้ของเธอคือ “ปาฏิหาริย์” ในขณะที่โรงพยาบาลได้แสดงความยินดีกับเธอ พร้อมกล่าวว่าความสำเร็จในครั้งนี้เป็นมากกว่า "ความสำเร็จทางการแพทย์ แต่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งและการล้มแล้วลุกได้ไวของจิตวิญญาณมนุษย์"
กรณีการให้กำเนิดลูกแฝดในครั้งนี้ที่ยูกันดาไม่ใช่กรณีแรก โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 มีรายงานหญิงชาวอินเดียวัย 73 ปีให้กำเนิดลูกแฝด หลังจากเธอเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้วเช่นกัน
"เราประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ ด้วยการคลอดลูกแฝดให้กับคุณแม่ที่อายุมากที่สุดในแอฟริกาวัย 70 ปี!" ศูนย์การเจริญพันธุ์นานาชาติและการเจริญพันธุ์ของโรงพยาบาลสตรี (WHI&FC) โพสต์บนเพจเฟซบุ๊กโดยระบุว่าเธอได้คลอดบุตรเมื่อวันพุธ (29 พ.ย.) หลังเที่ยงวัน พร้อมระบุเสริมว่า “แม่และเด็กๆ ทุกคนสบายดี”
นามุกวายา ระบุกับหนังสือพิมพ์ Daily Monitor ของยูกันดาว่า การตั้งครรภ์ของเธอเป็นเรื่องยาก เนื่องจากคู่ครองของเธอทิ้งเธอไป เมื่อเขารู้ว่าเธอกำลังจะมีลูกแฝด “ผู้ชายไม่ชอบให้บอกว่าคุณกำลังอุ้มท้องลูกมากกว่าหนึ่งคน นับตั้งแต่ฉันเข้ารับการรักษาที่นี่ ผู้ชายของฉันก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย” นามุกวายากล่าว
การให้กำเนิดลูกแฝดในครั้งนี้ของนามุกวายา เป็นการคลอดลูกครั้งที่ 2 ของเธอในรอบ 3 ปี โดยก่อนหน้านี้เธอให้กำเนิดทารกเพศหญิงเมื่อปี 2563 และเธอบอกว่าเธออยากมีลูก หลังจากที่เธอถูกล้อเลียนว่าเป็นคนไม่มีลูก “ฉันดูแลลูกๆ ของคนอื่นๆ และเห็นพวกเขาเติบโตขึ้นและทิ้งฉันไว้ตามลำพัง ฉันสงสัยว่าใครจะดูแลฉันเมื่อฉันแก่ตัว” นามุกวายาระบุ
อย่างไรก็ดี ไม่มีความชัดเจนว่านามุกวายาใช้ไข่ผู้บริจาคหรือไข่ของเธอเองที่ถูกแช่แข็งและเก็บไว้ตอนที่เธอยังเด็ก เพื่อการทำเด็กหลอดแก้วในครั้งนี้
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนระหว่างอายุ 45 ถึง 55 ปี และพวกเธอจะมีภาวะเจริญพันธุ์ลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ แต่ความก้าวหน้าทางการแพทย์สามารถทำให้ผู้หญิงคลอดบุตรได้ในช่วงวัยดังกล่าว
การปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) หรือการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นหนึ่งในหลายวิธีการทางการแพทย์ โดยในระหว่างกระบวนการนี้ ไข่จะถูกนำออกจากรังไข่ของผู้หญิง และผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ ไข่ที่ปฏิสนธิซึ่งเรียกว่าเอ็มบริโอ จะถูกนำเข้าไปในมดลูกของผู้หญิง เพื่อรอการเติบโตและพัฒนาเป็นเด็ก
ที่มา: