ไม่พบผลการค้นหา
‘พิธา’ ควง ส.ส.กทม.เขตบางนา-พระโขนงลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนประชาชน มอบถุงยังชีพให้ผู้ป่วยติดเตียง-คนพิการ พร้อมรับปากดันปัญหาปากท้อง-ตัดสิทธิบัตรทอง-ว่างงานเข้าสภาฯ

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2563 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 21 พรรคก้าวไกล เดินทางไปพบประชาชนในเขตบางนาและเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่และมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เเละผู้สูงอายุ 

พิธา กล่าวว่า เขตบางนาและพระโขนง ถือว่าเป็นพื้นที่เเรกที่ได้มาลงพื้นที่ หลังจากที่ได้รับตำเเหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติโควิด-19 และในวันนี้ตนมาลงพื้นที่ร่วมกับ สมเกียรติ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลอีกครั้ง ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จึงมีโครงการก้าวไกลสัญจรขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อไปปักธงประชาธิปไตยทั่วประเทศ ทั้งยังเป็นการสืบทอดอุดมการณ์อดีตพรรคอนาคตใหม่ สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในการทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์และยึดโยงประชาชน ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคของประชาชน โดยประชาชน เเละเพื่อประชาชน 

ด้าน สมเกียรติ กล่าวว่า โครงการจัดมอบถุงยังชีพเเก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เเละผู้เดือดร้อน ในพื้นที่เขตบางนาเเละเขตพระโขนง เป็นที่ถุงยังชีพที่ทีมงานจัดทำร่วมกับวัดวชิรธรรมสาธิต โดยมีกรรมการชุมชนแต่ละพื้นที่เป็นผู้คัดเลือกผู้สูงอายุ ผู้พิการ เเละผู้ป่วยติดเตียง ที่ประสงค์ในการรับถุงยังชีพมาให้ ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รับผิดชอบในพื้นที่ ได้รับทราบถึงปัญหา พร้อมที่จะร่วมแก้ไขเเละผลักดันเรื่องนี้ต่อไปในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การดูแลประชาชนทุกกลุ่มมีความเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะ ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เเละผู้สูงอายุ ในโซนเพี้ยนพิน ได้แก่ ชุมชนกลางนา ชุมชนร่วมพัฒนา ชุมชนพูนสวัสดิ์ ชุมชนร่วมใจประเสริฐ ในเขตบางนา กรุงเทพมหานคร รวม 33 ชุด แบ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง 5 ชุด เเละถุงยังชีพ 28 ชุด นอกจากนี้ ยังได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ปัญหาจากการโดนตัดสิทธิของการเข้ารับบริการบัตรทองในสถานพยาบาลของรัฐ ปัญหาการว่างงาน สะท้อนให้เห็นสภาพความเหลื่อมล้ำในสังคมในพื้นที่ชานเมืองกรุงเทพมหานคร โดยจะนำปัญหาดังกล่าวไปประสานต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป