ไม่พบผลการค้นหา
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ วิเคราะห์เกมการเมือง เตือน 'อนาคตใหม่' ควรมีสมาธิ อย่างอกปัญหาให้ถูกวิจารณ์ เชื่อการเกิดงูเห่าเป็นผลพวงจากรธน. 2560

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ให้ความเห็นกรณีพรรคอนาคตใหม่มีมติขับ 4 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรค ในรายการหัวใจไม่หยุดเต้น ว่า การขับ 4 ส.ส.ครั้งนี้ คงไม่ได้อ้างอิงหลักคณิตศาสตร์ต่อเสียงในรัฐสภา เพราะตอนนี้ปัญหาใหม่คือเรื่องยุบพรรค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นการคัดกรองบุคคลที่จะหล่อหลอมและรวมกันต่อสู้ในอนาคต เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีชื่อของพรรคอนาคตใหม่จารึกในสภาได้อีกนานเท่าไหร่ ต่อกรณีงูเห่าการเมืองที่เลื้อยเข้ารังใหม่ เชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่มองเห็นปัญหามานานแล้ว แต่จะให้ฟันธงว่าทั้ง 4 งูเห่าเลือกบ้านไว้ล่วงหน้าแล้วคงไม่กล้าให้ความเห็น เพราะถ้าไปล้วงคองูเห่าเดี๋ยวอ้วกออกมาเป็นกล้วยแน่

อย่างไรก็ดี นายณัฐวุฒิ มองว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องมีสมาธิอย่าไปสร้างประเด็นให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เช่น การต่อสู้ของกลุ่ม LGBT เห็นว่าน่าสนับสนุนแต่การแสดงออกบางอย่างไม่ควรเกิดขึ้นในอาคารรัฐสภา ขณะที่กรณีของงูเห่าควรปล่อยให้ประชาชนพิจารณาเอง 

สำหรับการร่วมกันร้องเพลงของ 3 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เป็นภาพสะท้อนของภาวะปริ่มน้ำ จึงต้องมีการเลี้ยงสังสรรค์ต้องจับตาดูว่า หากการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวผลลัพธ์ที่จะตามมาก็จะเผยให้เห็นอีกรูปแบบ ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการแก้รธน.นั้น ฝ่ายค้านมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ แต่ฝั่งครม.และพลังประชารัฐกลับต้องการให้แย่ ดังนั้นในที่ประชุมกรรมาธิการคงวุ่นวายไม่ต่างจากกรรมาธิการป.ป.ช. 

"นี่เป็นสูตรสำเร็จรัฐบาล ที่จะรักษารัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 เพื่อเป็นหลักประกันสืบทอดอำนาจต่อไป ส่วนเรื่องส.ส.งูเห่า เรื่องการแตกตัวเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย นี่คือการทำให้การเมืองในระบบไร้เสถียรภาพ เพื่อให้อำนาจนอกระบบให้อำนาจนอกระบบเข้ามามีอิทธิพลยังคงมีเสถียรภาพควบคุมการเมืองไทยได้ เราเลยไม่พ้นวงจรอุบาทว์ทางการเมือง" 

ดังนั้นตราบใดที่สังคมไทยยอมรับว่าการยึดอำนาจคือการยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่มีทางหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้ไปได้ ประชาชนต้องร่วมกันทำให้วงจรเหล่านี้หมดไปและสร้างวงจรปกติตามวิถีทางประชาธิปไตยสากล


อ่านเพิ่มเติม