รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563

หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด “ปารีณา” เพิ่ม 3 คดี หลังพบฟาร์มไก่ กว่า 665 ไร่ “รุกป่าสงวน” หลัง “กฤษฎีกา”ที่ปารีณาบอกว่าเป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาล ชี้ชัด ส.ป.ก. ยังไม่นำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ ยังเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยันยันไม่หนักใจ

คดีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเกาะติด คือ ปมที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์หน้าเพจว่า “อย่างที่ชมรมเคยพูดหากเอาเข้าคุกในคดีนี้ไม่ได้จะยอมกราบตีน ขอให้จับตาดูหลังจากปทส. แจ้งข้อหาแล้วสั่งฟ้อง คนที่จะช่วยให้หลุดหรือดองคดีได้ คืออัยการ จำคำชมรมไว้ เห็นมาเยอะหลายคดี” 

ขณะที่วันที่ 15 ก.พ. นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆืไพร พร้อมคณะ ตรวจสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา นำเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน 3 แปลง กว่า 665 ไร่ ซึ่งเป็นสำนวนของกรมป่าไม้ ส่งมอบให้ พ.ต.ท.ประดิษ ชาวพงษ์ สารวัตรสอบสวน กองกำกับการ 5 บก.ปทส. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ หลังการเข้าตรวจสอบพื้นที่ อาคาร สิ่งปลูกสร้าง และอุปกรณ์อื่น ๆ ของเขาสนฟาร์ม เมื่อวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายนฤพนธ์ กล่าวว่า การยื่นบันทึกตรวจยึด ส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปทส.จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 665 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา แบ่งเป็นแปลงที่ 1 พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขต ส.ป.ก. เนื้อที่ 387 ไร่เศษ เป็นบริเวณที่นำไปใช้ประโยชน์ทำฟาร์มไก่ พื้นที่อยู่ในเขตรั้วลวดหนาม มีโรงเรือน มีอาคาร 

แปลงที่ 2 พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขต ส.ป.ก. เนื้อที่กว่า 207 ไร่ เป็นพื้นที่ติดกันนอกรั้วใกล้เคียงต่อเนื่อง สภาพพื้นที่เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และโรงเรือนเก่า ต่อเนื่องกับฟาร์ม และแปลงที่ 3 พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในเขต ส.ป.ก. เนื้อที่ 70 ไร่ 2 งานเศษ เป็นพื้นที่ติดกัน สภาพเป็นป่ายูคาลิปตัส จากนี้จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้ง โดยยืนยันว่าไม่หนักใจในการแจ้งความครั้งนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย สำหรับที่แบ่งเป็น 3 แปลงนั้น แบ่งตามเหตุการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ทั้งนี้จะดำเนินคดีฐานความผิดบุกรุกที่ดินของรัฐ เบื้องต้นแจ้งเอาผิดกับ น.ส.ปารีณา ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม. 54 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ม.14 พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ม. 97 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9