แม้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันจะพากันตบเท้าขึ้นราคาเป็นแผง ยกเว้นค่าแรงผู้ใช้แรงงานที่ยังอยู่ที่เดิม แต่รัฐบาลประยุทธ์ก็ยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่กับการใช้มาตรการเดิม ๆ ทั้งการแก้ราคาน้ำมันแพงด้วยเงินกองทุนพลังงาน แทนที่จะใช้วิธีการลดภาษีสรรพสามิตหรือปรับโครงสร้างราคา หรือการใช้เงินกู้แจกโครงการคนละครึ่งจนประชาชนเสพติด แทนที่จะใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระบบ
เมื่อเศรษฐกิจไม่ฟื้น ข้าวของแพงสุดกู่ ประชาชนขาดรายได้ ผลที่ตามมาคือ “ความจนหลบใน” ของประชาชน ที่อยู่ในสภาพ “สิ้นเดือนก็เหมือนสิ้นใจ”แม้กระทั่งจะกินอาหารก็แทบไม่มีเสรีภาพในการเลือก ต้องหาซื้อกินเท่าที่เงินก้นกระเป๋าพอจะซื้อไหว ก่อนหน้านี้ยังพอมี “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ประทังชีวิต แต่ตอนนี้ก็กำลังจะปรับขึ้นราคาอีก หรือถึงยุคที่ชาวบ้านจะต้องกินมาม่าครึ่งซองกันแล้ว??