องค์กรระหว่างประเทศแนะสายการบินทั่วโลกลงทุนเพิ่ม และพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ หลังพบว่ากระเป๋าชำรุด สูญหาย และส่งถึงที่หมายล่าช้ากว่า 2.48 ล้านใบต่อปี
SITA องค์กรระหว่างประเทศที่รวบรวมข้อมูลการเดินทางและการจัดการสัมภาระของสายการบินทั่วโลก เผยแพร่สถิติผู้ได้รับผลกระทบจากการขนส่งกระเป๋าสัมภาระผิดพลาด โดยจะแบ่งเป็น กระเป๋าสูญหาย ชำรุด และถูกส่งไปยังที่หมายปลายทางล่าช้ากว่ากำหนด รวมทั้งหมด 2.48 ล้านใบ เมื่อปี 2018 จากจำนวนผู้โดยสารทั่วโลก 4,360 ล้านคน ซึ่งการสำรวจข้อมูลดังกล่าวอาศัยข้อมูลที่ได้จากสมาชิกสมาคมหรือสมาพันธ์อากาศยานและการขนส่งทั่วโลก รวมกว่า 400 บริษัท มีสาขารวมกว่า 200 แห่งทั่วประเทศและเขตปกครอง
รายงานของ SITA ระบุด้วยว่า สถิติดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 8.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับจำนวนกระเป๋าที่ชำรุด สูญหาย และล่าช้าในปี 2017 โดยสาเหตุหลักมักจะมาจากเที่ยวบินที่ผู้โดยสารต้องแวะเปลี่ยนเครื่องออกจากสนามบินต้นทางล่าช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้การจัดการกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารที่จุดแวะเปลี่ยนเครื่องต้องพลอยล่าช้าไปด้วย เมื่อผู้โดยสารถึงที่หมายปลายทาง กระเป๋าสัมภาระก็อาจจะยังเดินทางมาไม่ถึง ซึ่งหลายครั้งต้องรอนานกว่า 24 ชั่วโมง
ข้อมูลของ SITA บ่งชี้ว่า กระเป๋าสัมภาระกว่า 2.48 ล้านใบที่ประสบปัญหาด้านการจัดการ แบ่งเป็นกระเป๋าที่สูญหาย 5 เปอร์เซ็นต์ กระเป๋าที่ชำรุดหรือถูกเปิดค้น 18 เปอร์เซ็นต์ และกระเป๋าที่ส่งถึงที่หมายล่าช้า คิดเป็น 77 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นสถิติที่ลดลง 48 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสถิติกระเป๋าชำรุด สูญหาย ล่าช้า ที่สำรวจเอาไว้เมื่อปี 2007 บ่งชี้ว่าในทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทสายการบินทั่วโลกพยายามปรับปรุงการดำเนินงานด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม SITA อ้างถึงข้อแนะนำของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งระบุว่า สายการบินต่าง ๆ ควรสนับสนุนงบประมาณด้านการพัฒนาเทคโนโลยีติดตามกระเป๋าสัมภาระแบบเรียลไทม์ โดยยกตัวอย่างสายการบินหลายแห่งในประเทศแถบยุโรปที่พัฒนาระบบแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟนให้ผู้โดยสารที่ดาวน์โหลด เพื่อตรวจสอบการขนส่งกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเอง