บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากสหรัฐฯ กำลังจะถูกเก็บภาษีเพิ่มจากรัฐบาลฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสจะเป็นประเทศแรกที่บังคับใช้มาตรการนี้ก่อนประเทศสมาชิกอียู
1 มกราคม 2019 คือ วันแรกที่ทางการฝรั่งเศสเริ่มบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีที่เรียกว่า GAFA โดยจะเป็นการเก็บภาษีจากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างกูเกิล แอปเปิล เฟซบุ๊ก และแอมะซอน โดยคาดการณ์ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะได้รับเงินจากภาษีชนิดนี้มากถึง 500 ล้านปอนด์ หรือราว 20,500 ล้านบาท ซึ่งมาตรการนี้เป็นแนวคิดที่ นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส เคยประกาศไว้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หลายเดือนที่ผ่านมา กรุงปารีส ของฝรั่งเศส พยายามอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้เป็นธรรมต่อกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยิ่งขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ หลายบริษัทถูกจับได้ว่ามีการบริหารจัดการให้พวกเขาได้จ่ายภาษีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เช่น กรณีที่ตรวจพบว่า กูเกิลสร้างเม็ดเงินมหาศาลจากฝรั่งเศสช่วงปี 2005-2010 แต่กลับจ่ายภาษีไม่ถึง 10 ล้านปอนด์ เพราะมีการโอนถ่ายธุรกรรมต่าง ๆ ไปไว้ในประเทศไอร์แลนด์เนื่องจากมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่า
ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปได้พยายามเจรจาข้อตกลงจัดเก็บภาษีที่ 3 เปอร์เซ็นต์ จากรายได้ของบริษัทที่นำข้อมูลของผู้ใช้งานไปสร้างผลประโยชน์ทางการตลาดต่อ แต่การเจรจารอบสุดท้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาไม่เป็นผล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา ทางการฝรั่งเศสจึงตัดสินใจเดินหน้าโดยไม่รอเสียงโหวตจากกลุ่มประเทศสมาชิก และเก็บภาษี 3 เปอร์เซ็นต์ ตามมาตรการ GAFA เนื่องจากขณะนี้ ฝรั่งเศสกำลังเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากความไม่สงบทางการเมือง