รายงานล่าสุดในรัฐมิสซูรี สหรัฐฯ ชี้ว่าผู้ขับขี่ผิวดำเสี่ยงจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอดมากกว่าคนผิวขาว 91 %
รายงานล่าสุดของสำนักงานอัยการสูงสุดรัฐมิสซูรี ของสหรัฐฯ พบว่าผู้ขับขี่รถยนต์ที่เป็นคนดำเสี่ยงจะถูกตำรวจจราจรโบกเรียกให้จอดมากกว่าคนขาวถึง 91 % นับเป็นช่องว่างระหว่าง 2 กลุ่มประชากรที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีการประมวลเอกสารการจราจรภายในมลรัฐมาตลอด 19 ปี โดยประชากรแอฟริกันอเมริกันคิดเป็น 10.9 % ของจำนวนชาวมิสซูรีในช่วงอายุที่ขับขี่รถยนต์ได้ทั้งหมดเท่านั้น แต่กลับเป็นเกือบ 20 % ของผู้ขับขี่ทั้งหมดที่ถูกตำรวจเรียก
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวประมวลผลจากเอกสารเรียกจอดกว่า 1 ล้าน 5 แสนครั้ง จากสถานีตำรวจ 596 แห่งทั่วมลรัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ว่า กลุ่มประชากรผิวขาว และแม้แต่สีผิวอื่น ๆ ทั้งฮิสแปนิก เอเชีย และอเมริกันพื้นถิ่น ยังถูกตำรวจจราจรเรียกจอดน้อยกว่าคนดำ หรือ แอฟริกันอเมริกัน อยู่มาก และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือสัดส่วนของผู้ขับขี่ผิวดำที่ถูกเรียกจอด ที่ถูกตรวจค้นรถ-ค้นตัว และจับกุม ยังสูงกว่าผู้ขับขี่ผิวขาวอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย
สำหรับสัดส่วนการตรวจค้นนั้น ค่าเฉลี่ยของผู้ขับขี่ที่ถูกเรียกจอด ถูกตรวจค้นคิดเป็น 6.6 % แต่คนดำและคนฮิสแปนิกกลับถูกตรวจค้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยนั้น ที่เกือบ 9 เปอร์เซ็นต์ และ 8.4 % ตามลำดับ สัดส่วนการถูกจับกุมนั้น คนขาวถูกจับกุม 4.25 % ของทั้งหมดที่ถูกเรียกจอด ขณะที่ คนดำและคนฮิสแปนิกถูกจับกุม 6.37 และ 6.26 % ตามลำดับ โดยสรุปคือ คนดำเสี่ยงถูกเรียกกว่ากลุ่มอื่น ๆ และถ้าถูกเรียกแล้ว คนดำและคนฮิสแปนิกจะเสี่ยงถูกค้นหรือจับกุมกว่ากลุ่มอื่น ๆ นั่นเอง