บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของจีนประกาศความสำเร็จในการโคลนนิ่ง 'แมว' ให้กับนักธุรกิจหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงเพื่อการพาณิชย์ครั้งแรกของจีน แต่ก็มีผู้วิจารณ์ว่าธุรกิจโคลนนิ่ง อาจจะเปิดช่องให้เกิดการทารุณสัตว์ได้เช่นกัน
หวงฟู่ นักธุรกิจชาวจีนวัย 22 ปี เป็นลูกค้าของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ 'ซิโนจีน' (SinoGene) ซึ่งให้บริการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยง หลังจากที่ 'การ์ลิก' แมวสายพันธุ์ 'บริติช ชอร์ตแฮร์' ซึ่งเขาเลี้ยงมาได้ 2 ปีกว่า ป่วยตายจากการติดเชื้อเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเขาผูกพันกับการ์ลิกมาก จึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลบริษัทที่รับโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยง จนเจอกับบริษัทซิโนจีน
ล่าสุด บริษัทซิโนจีนได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า ขั้นตอนการโคลนนิ่ง 'การ์ลิก' ประสบความสำเร็จด้วยดี พร้อมทั้งอนุญาตให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพลูกแมวการ์ลิกที่เพิ่ง 'เกิดใหม่' ได้ไม่กี่เดือน เพื่อเป็นหลักฐานว่าลูกแมวตัวนี้มีสุขภาพแข็งแรงดีอีกด้วย
จากการรายงานข่าว อ้างอิงผู้เชี่ยวชาญของบริษัทซิโนจีน ระบุว่าขั้นตอนการโคลนนิ่ง 'การ์ลิก' เริ่มจากการนำเซลล์ต้นแบบจากการ์ลิกที่เพิ่งตายไปเพาะเลี้ยงเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงนำตัวอ่อนไปฝังในแม่แมวที่ถูกเลือกให้มาอุ้มท้อง และกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 66 วัน การ์ลิกก็คลอดออกมาอย่างปลอดภัยเมื่อเดือนกรกฎาคม
บริษัทซิโนจีนระบุว่า ขั้นตอนทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายรวม 2 แสน 5 หมื่นหยวน หรือประมาณ 1 ล้าน 6 หมื่นบาท ขณะที่จำนวนผู้เลี้ยงแมวทั่วประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 73 ล้านคน ทำให้บริษัทซิโนจีนมองว่า ช่องทางของธุรกิจโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงนี้ น่าจะมีอนาคตที่สดใสพอสมควร
ที่ผ่านมา บริษัทซิโนจีนเคยโคลนนิ่งแมวและสุนัขมาก่อน แต่ในอนาคต บริษัทตั้งเป้าว่าจะโคลนนิ่ง 'ม้า' ด้วย และอาจจะพัฒนาไปจนถึงการโคลนนิ่งสัตว์หายากหรือสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยระบุว่าน่าจะช่วยเรื่องการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์เหล่านี้ได้ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะมีผู้ที่วิตกกังวลว่าขั้นตอนการโคลนนิ่งสัตว์นั้นไม่เป็นธรรมกับสัตว์ที่ถูกเลือกมาเป็น 'แม่อุ้มบุญ' ซึ่งจะต้องถูกฝังตัวอ่อนลงไปในท้อง
ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ยกตัวอย่างการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศอื่นๆ พบว่าแม่แมวซึ่งถูกฝังตัวอ่อนไม่ได้คลอดลูกออกมาได้สำเร็จเสมอไป แมวบางตัวตกเลือด และต้องแบกรับภาระตั้งท้องสัตว์โคลนนิ่ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไร้ความปรานี และเป็นการให้ความสำคัญที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่าง 'สัตว์ทดลอง' กับ 'สัตว์เลี้ยง'
นอกจากนี้ การโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นการยืนยันว่าสัตว์ที่ได้จะมีลักษณะภายนอกเหมือนกับสัตว์ตัวเดิมทุกประการ เพราะกรณีของ 'การ์ลิก' จะพบว่าลูกแมวที่เกิดจากการโคลนนิ่ง มีสีตาและสีขนแตกต่างจาก 'การ์ลิก' ที่เป็นตัวต้นแบบ แต่ทางบริษัทซิโนจีนยืนยันกับเจ้าของว่า นี่ไม่ใช่การ 'ย้อมแมว' แน่นอน เพราะเขานำผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอของแมวการ์ลิกต้นแบบกับแมวการ์ลิกโคลนนิ่งมาแจกแจงให้เจ้าของได้เห็นกันอย่างชัดเจนว่าดีเอ็นเอของแมวทั้งสองตัวนั้นเป็น 'สำเนาถูกต้อง'
แต่สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงก็กังวลว่าสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การทดลองโคลนนิ่งตัวอ่อนมนุษย์ในอนาคต ซึ่งเป็นวิธีที่ฝืนธรรมชาติ และอาจจะทำให้ต้องถกเถียงกันใหม่เรื่องสิทธิของมนุษย์โคลนนิ่ง ว่าพวกเขาจะมีสิทธิเหนือร่างกายหรือจิตใจของตนเองหรือไม่