KLM ใช้หุ่นยนต์อำนวยความสะดวกผู้โดยสารก่อนบิน
สายการบิน KLM ของเนเธอแลนด์ เปิดตัว 'แคร์อี' หุ่นยนต์ผู้ช่วยส่วนบุคคลที่จะมาช่วยเช็กเที่ยวบิน ขนกระเป๋า และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารไม่ต้องรู้สึกกังวลก่อนการออกเดินทาง
ปัจจุบัน สายการบินหลายแห่งพยายามแข่งขันกันนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวก และดึงดูดผู้ใช้ให้มากขึ้น ล่าสุด KLM สายการบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ได้เปิดตัว 'แคร์อี (Care-E)' หุ่นยนต์ผู้ช่วยสีฟ้าสุดน่ารัก ที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องกังวลก่อนจะเริ่มการเดินทาง โดยหุ่นยนต์แคร์อีนี้ จะช่วยเช็กเที่ยวบิน และแจ้งเตือนเมื่อเที่ยวบินดีเลย์ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนเกตขึ้นเครื่อง นอกจากนั้น ยังช่วยขนกระเป๋าให้ผู้โดยสารไว้ด้านหลังตัวหุ่นยนต์แบบอัตโนมัติ
โดยหุ่นยนต์แคร์อีจะไปรอผู้ใช้อยู่ที่บริเวณด่านรักษาความปลอดภัยของสนามบิน หลังจากนั้น หุ่นยนต์สามารถพาผู้โดยสารไปได้ทุกที่ทั่วสนามบิน ด้วยความเร็ว 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (3 mph) ซึ่งผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ด้วยการสแกนบอร์ดดิงพาสกับแคร์อี โดยสามารถทดลองใช้บริการได้ฟรีเป็นเวลา 2 วัน
KLM เตรียมให้บริการหุ่นยนต์แคร์อี ในสนามบิน JFK ที่นิวยอร์ก และสนามบินที่ซานฟานซิสโกของสหรัฐฯ ก่อนจะขยายการให้บริการในสนามบินอื่นต่อไป
'ไมโครซอฟท์' จับมือ 'เนชันแนลจีโอกราฟฟิก' พัฒนาเอไอ
ไมโครซอฟท์ ประกาศร่วมมือกับ เนชันแนลจีโอกราฟฟิก องค์กรด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่ไม่แสวงผลกำไร ร่วมกันทุ่มงบประมาณจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 33,000 ล้านบาท ในการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยทั้งสองหน่วยงานจะคัดเลือก 5 ถึง 15 โครงการที่โดดเด่น ให้ได้รับทุนนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เพื่อโลก หรือ AI for Earth Innovation Grant โดยผู้ชนะที่ได้รับคัดเลือกจะได้เงินสนับสนุนจากกองทุน และยังสามารถเข้าถึงเครื่องมือด้านเอไอและคลาวด์ของไมโครซอฟท์ และห้องแล็บของเนชันแนลจีโอกราฟฟิก อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถส่งใบบัตรไปที่เว็บไซต์ nationalgeographic.org ได้ถึงวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ซึ่งโครงการที่นำเสนอจะต้องเน้นไปที่การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ภาวะโลกร้อน เกษตรกรรม หรือเรื่องน้ำ ซึ่งสามารถขอทุนได้ไม่เกิน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6 ล้าน 6 แสนบาท โดยจะประกาศผลการคัดเลือกในเดือนธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้กูเกิล ได้ประกาศความร่วมมือในลักษณะคล้ายกันนี้กับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Environment เพื่อแบ่งปันข้อมูลว่ากิจกรรมที่มนุษย์ทำมีผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างไรบ้าง โดยจะส่งให้รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์
Instapaper ซื้อคืนกิจการจาก Pinterest
อินสตาเปเปอร์ (Instapaper) ประกาศแยกตัวออกมาจาก พินเทอเรส (Pinterest) อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่บริการดังกล่าวอยู่บนแพลตฟอร์มของพินเทอเรสมานานกว่า 2 ปี ซึ่งอินสตาเปเปอร์ เป็นแอปพลิเคชันที่เก็บรวมรวมหน้าบทความ เว็บเพจ หรือลิงก์ต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถมาอ่านทีหลังแบบออฟไลน์ได้ ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งบนแท็บเล็ต สมาร์ตโฟน รวมทั้งอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อย่าง คินเดิล และอุปกรณ์อีอิงค์อื่น ๆ อีกด้วย
การแยกตัวออกมาจากพินเทอเรสครั้งนี้ อินสตาเปเปอร์ยังคงให้บริการแบบเดิม โดยทีมงานผู้พัฒนาได้บอกผ่านบล็อกโพสต์ว่าวางแผนจะให้บริการที่มีประสิทธิภาพกับผู้อ่าน และเพิ่มประสบการณ์การอ่านในอนาคต อินสตาเปเปอร์เปิดให้ใช้งานได้แล้วทั่วโลก ยกเว้นในทวีปยุโรปที่ติดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ GDPR ซึ่งทางอินสตาเปเปอร์ยังบอกไม่ได้ว่า จะเปิดให้บริการในยุโรปได้เมื่อไร คุณผู้ชมที่ชอบอ่านบทความตามเว็บไซต์สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอินสตาเปเปอร์มาเก็บไว้ในเครื่องได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส
Source
YouTube/KLM Royal Dutch Airlines
YouTube/Microsoft