บริษัทเทคโนโลยีรวมตัว ลงนามเพื่อป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ คาดความเสียหายจากการถูกโจรกรรมอาจพุ่งสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2022
บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก และอีก 32 บริษัททั่วโลกร่วมกันลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความปลอดภัยทางไซเบอร์และเทคโนโลยี หรือ Cybersecurity Tech Accord เพื่อต่อสู้กับปัญหาด้านการโจมตีทางไซเบอร์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบโดยตรงกับทรัพย์สินของบริษัทเทคโนโลยีในวงกว้าง รวมไปถึงความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวหรือบรรดาภาคธุรกิจ
ในปี 2017 บริษัทไมโครซอฟท์เคยเรียกร้องให้มีการออกกฎเกณฑ์และการร่วมมือกันของกลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยี เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม จนในที่สุดหลังจากนั้นเพียง 2 เดือนก็เกิดเรื่องการเรียกค่าไถ่ขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายกลัวถึง 2 ครั้งใหญ่ ๆ ด้วยกัน
อาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างคือ WannaCry ที่โจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์ไปกว่า 300,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว โดยการเรียกค่าไถ่เพื่อปลดล็อกเป็นเงินสกุลบิตคอยน์ ทำให้มีการตระหนักถึงหายนะที่อาจเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้ โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นมีหน่วยงานด้านการแพทย์ของอังกฤษมากถึง 48 แห่ง ตกเป็นเหยื่อของแรนซัมเรียกค่าไถ่ดังกล่าว สร้างความเสียหายอย่างมากต่อวงการการแพทย์ในยุโรป
และอีกหนึ่งครั้งก็คือ NotPetya เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว การเรียกค่าไถ่ทางไซเบอร์นี้เกิดขึ้นในยูเครนเป็นที่เเรกก่อนที่จะส่งผลออกไปเป็นวงกว้างในหลายประเทศ โดยตัวซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่จะทำการล็อกระบบคอมพิเตอร์ของเรา แล้วเรียกเก็บเงิน 300 ดอลลาร์ฯ ในรูปแบบของสกุลเงินบิตคอยน์ แต่ผลปรากฎว่าเหยื่อหลายรายที่ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้ข้อมูลคืนก็ไม่สามารถกู้ไฟล์ได้อยู่ดี ซึ่งทางการอังกฤษออกมาประกาศว่ารัสเซียคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
ในงานประชุม RSA Conference 2018 นายแบรด สมิธ ประธานบริษัทไมโครซอฟท์ได้ขึ้นกล่าวประณามหายนะที่เกิดจากการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีรัฐบาลต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งโจมตีผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้บริษัทด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมให้มาลงนามเพื่อร่วมมือกันปกป้องประชาคมโลกจากการโจมตีทางไซเบอร์
มีการคาดการณ์ว่าผลกระทบที่ทำให้เกิดความสูญเสียทางการเงินต่อองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพผู้ก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์จะเพิ่มเป็นมูลค่าความเสียหายราว 8 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี 2022 นี้ โดยนอกจากไมโครซอฟท์และเฟซบุ๊กแล้ว ก็ยังมีบริษัทอื่น ๆ ที่ร่วมลงนามด้วยอย่าง Cisco, HP และ Nokia ในขณะที่รายใหญ่ของวงการอย่าง Apple, Alphabet และ Amazon กลับไม่ปรากฏชื่อในการลงนามในครั้งนี้