ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'จอห์นนี เดปป์' อาชญากรรมของการเป็นกรินเดลวัลด์ - Short Clip
World Trend - ​'ศิลปศาสตร์' อาจไม่สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ? - Short Clip
World Trend - สาวเกาหลีใต้ลุกฮือปฏิวัติการให้คุณค่า ‘ความงาม’ - Short Clip
World Trend - แอปเปิลปลดพนักงานพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ 200 คน - Short Clip
World Trend - ซาอุดีฯ เตรียมจัด Arab Fashion Week ครั้งแรก - Short Clip
World Trend - หลายบริษัทในจีนห้ามพนักงานซื้อผลิตภัณฑ์ 'แอปเปิล' - Short Clip
World Trend - อีลอน มัสก์ พิจารณาถอน 'เทสลา' ออกจากตลาดหลักทรัพย์ - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวกล้องจิ๋ว RX0 II พร้อมจอพับได้ - Short Clip
World Trend - D&G ใช้โดรนเดินแบบในมิลานแฟชั่นวีค - Short Clip
World Trend - ​เมื่อฮอลลีวูดต้องใช้ 'ความจีน' ดึงดูดผู้ชมจีน - Short Clip
World Trend - ปิดตำนาน 'คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์' เจ้าพ่อแฟชั่นโลก - Short Clip
World Trend - สปีลเบิร์กกังวล ความสำเร็จสตรีมมิงกระทบหนังโรง - Short Clip
World Trend - ศาลสูงสหรัฐฯ ให้ผู้ใช้ฟ้องแอปเปิลผูกขาดได้ - Short Clip
World Trend - แอมะซอนเล็งทำเลสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ - Short Clip
World Trend - นทท.จีนเดินทางไปฮ่องกงเพิ่มขึ้นแม้เงินหยวนอ่อนค่า - Short Clip
World Trend - เทสลาปิดโชว์รูมลดต้นทุน เดินหน้าขายออนไลน์ - Short Clip
World Trend - คนดังระดับโลกเลือกบริจาคทรัพย์สินหลังความตาย - Short Clip
World Trend - เฮลซิงกิแฟชั่นวีคเริ่มแบน ‘หนังสัตว์’ ในปี 2019 - Short Clip
World Trend - 'คริสตินา อากีเลรา' ประกาศเตรียมขึ้นโชว์เวกัส - Short Clip
World Trend - อินเดียเผชิญมลพิษอากาศหนัก แม้เศรษฐกิจโตอันดับ 1 - Short Clip
World Trend - 'D&G' ยกเลิกแฟชั่นโชว์ในจีนเหตุดราม่าเหยียดเชื้อชาติ - Short Clip
Nov 22, 2018 16:32

Dolce & Gabbana แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงจากอิตาลีประกาศยกเลิกการจัดงานแฟชั่นโชว์ครั้งใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนงานเริ่ม หลังเผชิญปัญหาดราม่าครั้งใหญ่กรณีการเหยียดเชื้อชาติ

สำนักข่าว The Independent ของอังกฤษรายงานเหตุการณ์ดราม่าครั้งใหญ่ในวงการแฟชั่นโลก โดยระบุว่า Dolce & Gabbana แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงสัญชาติอิตาลี ได้ออกมาประกาศยกเลิกการจัดงานแฟชั่นโชว์ครั้งใหญ่ที่มีชื่อว่า#DGTheGreatShow ซึ่งกำลังจะมีขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน โดยเป็นการประกาศยกเลิกล่วงหน้าก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอโปรโมตที่มีลักษณะเหยียดเชื้อชาติออกไป

Dolce & Gabbana ได้เผยแพร่คลิปตัวปัญหาที่ว่านี้ลงในสื่อโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มอินสตาแกรมของทางแบรนด์ โดยเป็นคลิปซีรีส์ที่ใช้ชื่อว่า ‘Chopsticks Eating’ ซึ่งเป็นวิดีโอที่มีหญิงสาวชาวจีนสวมใส่ชุดของแบรนด์ Dolce & Gabbana นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารและกำลังพยายามใช้ตะเกียบในการรับประทานอาหารอิตาลีอย่างพิซซ่า ขนมที่มักจะทานคู่น้ำชาอย่างแคนโนลีแต่เป็นแคนโนลีที่มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงการพยายามรับประทานสปาเก็ตตีอีกด้วย 

โดยท่าทางของเธอแสดงออกถึงความเคอะเขินในการพยายามใช้ตะเกียบ และมีสีหน้าขำขันอย่างเขินอาย ซึ่งเนื้อหาและภาพรวมในโทนของการใช้แสงสีและดนตรีประกอบของในวิดีโอ ทำให้ชาวจีนหลายล้านคนไม่พอใจอย่างมาก 

อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปในทันทีก็คือเมื่อบัญชีอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า @dietprada ซึ่งเป็นบัญชีที่มักจะพูดถึงปัญหาดราม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวงการแฟชั่นโลก ได้ออกมาเผยแพร่ภาพบทสนทนาระหว่างผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อ @MichaelaTranova กับ @stefanogabbana ซึ่งเป็นดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์เอง โดยตัวดีไซเนอร์พูดถึงเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างถึงพริกถึงขิงว่า 

"ชุดวิดีโอซีรีส์โปรโมตเหล่านั้นถูกลบไปจากอินสตาแกรมของแบรนด์เรียบร้อยแล้ว เพราะความงี่เง่าของทีมงานบริษัทของผมเอง ซึ่งงี่เง่าพอ ๆ กับทางการจีน ทุกอย่างออกมาในแบบที่ผมต้องการ ผมไม่ได้สั่งให้พวกเขาลบมันออกจากโซเชียลมีเดียแน่นอน" เท่านั้นยังไม่พอ กับบานายังระบุต่อด้วยว่า "ต่อจากนี้ไปทุกครั้งที่ผมให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ผมจะบอกกับทุกคนว่าประเทศจีนเป็นประเทศอุจจาระ (มีการใช้อีโมจิรูปอุจจาระทั้งหมด 5 อัน) และเราสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้แม้ไม่มีพวกคุณ"

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานสเตฟาโน กับบานา ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ก็ออกมาโพสต์ภาพบทสนทนาอันเผ็ดร้อนดังกล่าวลงบนอินสตาแกรมของตัวเองโดยมีคำว่า 'Not Me' สีแดงตัวใหญ่พาดกลางอยู่บนภาพเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนพิมพ์บทสนทนานั้น พร้อมมีการบรรยายใต้ภาพระบุด้วยว่า อินสตาแกรมของกับบานานั้นที่จริงแล้วถูกแฮ็ก ซึ่งทีมงานด้านกฎหมายของทางแบรนด์กำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เขายืนยันว่าเขารักประเทศจีนและวัฒนธรรมของจีน และเขาขอโทษกับเหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไป 

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่กับบานาได้โพสต์รูปภาพนั้นลงไป มีผู้ใช้อินสตาแกรมหลายหมื่นคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่าเขาไม่ได้พูดความจริง และคำพูดทั้งหมดนั้นคือการแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ โดยขณะเดียวกันโซเชียลมีเดียของจีนก็ได้เริ่มมีการขับเคลื่อนการแบนสินค้าจาก Dolce & Gabbana เป็นที่เรียบร้อยด้วยการใช้แฮชแท็กว่า #BoycottDolce ซึ่งนอกจากประชาชนคนทั่วไปแล้ว บรรดานางแบบและเซเลบริตีชื่อดังหลังคนก็ไม่ต้องการไปร่วมงานด้วย

ในการจัดงานครั้งนี้มีการรายงานว่า Dolce & Gabbana ทุ่มทุนอย่างมากที่จะสร้างแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่อลังการให้เกิดขึ้นในจีนด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินหลายล้านดอลลาร์ เพื่อเอาใจลูกค้าชาวจีนซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มที่สำคัญมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของทางแบรนด์ พร้อมต้องการที่จะสร้างกระแสต่อยอดจากความสำเร็จช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ได้มีการสร้างความฮือฮาไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อ Dolce & Gabbana ใช้โดรนในการหิ้วกระเป๋าคอลเล็คชั่นใหม่ออกมาเดินบนรันเวย์แทนการใช้นางแบบที่เป็นมนุษย์จริง ในเดือนกุมภาพันธ์

ซึ่งในปีนี้นักแสดงจากไทยอย่าง ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ และมาริโอ้ เมาเร่อ ก็ได้รับเลือกให้ไปร่วมเดินแฟชั่นโชว์ด้วย โดยหลังจากการประกาศยกเลิกการจัดแฟชั่นโชว์ ได้มีตัวแทนของทั้งคู่ออกมาแจ้งสื่อมวลชนว่า ทั้งคุณใหม่และคุณมาริโอ้ได้ร่วมเดินซ้อมตั้งแต่วันก่อนหน้าและช่วงเช้าของวันงาน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโชว์ก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของทุกฝ่าย ซึ่งทั้งคู่ก็เสียดาย เพราะคิดว่าโชว์จะมีความพิเศษมาก ๆ แต่เมื่อทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของตัวนักแสดง ก็ถือว่าตัวเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว และเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอย่างแน่นอน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้า แล้วเดินต่อไปให้ดีที่สุด

ด้านเว็บไซต์ Business of Fashion ก็ออกมาระบุว่า แม้ขณะนี้ยังไม่มีการแถลงที่แน่ชัดว่าการยกเลิกแฟชั่นโชว์ของ Dolce & Gabbana นั้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ แต่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเป็นเพราะมีการสั่งการลงมาจากทางรัฐบาลของจีน เนื่องจากกระแสความรุนแรงทางโซเชียลมีเดียนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแขกคนสำคัญจำนวนมากได้ยกเลิกที่จะมาร่วมงานนี้

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog