เหน็บ 'บิ๊กตู่' อย่าเหนียมจนเกินงาม ต้องยอมรับความจริง หลัง 'วิษณุ' เตือนนักการเมืองปูด 4 หมื่นล้าน ระวังผิดพูดเท็จผิดกฎหมาย 'วัชระ' ยันข้อมูลระดมทุนตั้งพรรคหนุนทหารจริง ปัดเอี่ยวนายกฯ ท้าสาบานวัดพระแก้วใน 7 วัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบเอาผิดนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ามีการระดมเงิน 4 หมื่นล้านบาทตั้งพรรคทหารว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจมองว่าไม่ใช่เรื่องจริงจึง ซึ่งจะทำให้คนเข้าผิด จึงต้องไปดูว่าผู้พูดมีเจตนาอะไรที่เอาเรื่องไม่จริงมาพูด เพราะเมื่อนายวัชระอ้างตัวเลข 4 หมื่นล้านบาทได้ คนอื่นก็สามารถพูดโดยไม่มีมูลความจริงได้เช่นกัน และการพูดโดยไม่มีมูลความจริงออกผ่านสื่อสาสาธารณะนั้นก็ย่อมมีความผิด
เมื่อถามว่าจะเอาผิดนายวัชระอย่างไร? นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนคิดว่าจะเอาผิดหรือตั้งข้อหา และนายกฯก็เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยดู
เมื่อถามว่าถือเป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่? นายวิษณุ กล่าวว่า อาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ และข่าวร่ำลือกันไปต่างๆนานา อย่างในที่ปัจจุบันที่มีการส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงมากมาย ทำให้คนเกิดความเชื่อ เซึ่งรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่หากพิสูจน์ข้อเท็จจริงก็อาจจะเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ได้ เช่น ถ้าเราตบหน้าคนเฉยๆก็ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ถ้าเราตบหน้าเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง ก็จะกลายเป็นเรื่องการเมือง
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ระบุจะฟ้องกรณีที่ระบุว่า มีการระดมทุน 40,000 ล้านบาท เพื่อตั้งพรรคทหาร ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงฟังความไม่หมด เพราะตนบอกว่าได้รับข้อมูลด้านการข่าวว่า มีการระดมทุนเพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อสนับสนุนทหารเป็นวงเงินดังกล่าว
ยืนยันไม่ได้ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้อง เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองไม่ควรเดือดร้อน เพราะมีรายงานว่ามีการพูดคุยเรื่องระดมทุน เพื่อตั้งพรรคสนับสนุนทหารในทำเนียบรัฐบาล และมีรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ยอมรับต่อสังคมเองว่า กำลังจะตั้งพรรคการเมืองจริง
ส่วนที่นายกฯท้าเปิดหลักฐานนั้น นายวัชระ กล่าวว่า เปรียบเหมือนการหาใบเสร็จของการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งคงไม่มี แต่ขอให้ไปถามจากพ่อค้า นักธุรกิจ นักลงทุนที่ได้ประโยชน์จากรัฐ ยืนยันว่ามีการระดมทุนจริง เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้ายืนยันต่อหน้าสื่อ เพราะเป็นยุครัฐบาล คสช.
"ท่านกล้าสาบานต่อวัดพระแก้วใน 7 วันหรือไม่ว่า ไม่มีการใช้ทำเนียบรัฐบาลพูดคุยกันเรื่องการตั้งพรรคการเมือง และผมไม่เคยกล่าวหาว่าท่านทุจริต หรือสั่งการให้มีการระดมทุนตั้งพรรค เมื่อท่านขู่ว่าจะฟ้องร้องผมและสื่อ ก็ขอร้องว่าอย่าฟ้องเลย แต่หากจะฟ้องผมก็ยินดี ที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ เพราะมีความสุจริตใจในการให้ข้อมูลและหวังดีต่อท่าน ไม่อยากให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ อยากให้พอแล้ว เพราะท่านไม่ทันนักการเมืองที่ฉ้อฉลแน่นอน และขอให้ดูตัวอย่าง จอมพลถนอม กิตติขจร และพล.อ.สุจินดา คราประยูร และขอให้เอาเวลาที่จะฟ้องร้องผมไปเร่งปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาล้มเหลว และเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พืชผลการเกษตรตกต่ำ ราคาปาล์ม ราคายางพารา" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการแจ้งเรื่องทุจริต ถือเป็นการทำหน้าที่ของนักการเมืองและประชาชน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เชิญชวนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชัน ตนจึงได้ทำหนังสือแจ้งเรื่องทุจริตไปกว่า 10 เรื่องไปยังรัฐบาล แต่ไม่มีคำตอบกลับมา อยากถามว่าหากข้อมูลไม่จริง เหตุใดจึงมีคำสั่งปลดปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรณีทุจริตเงินคนยากไร้ หรือกรณีคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติงบประมาณโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ 8,640 ล้านบาท ในโครงการสร้างรัฐสภาใหม่ ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่ตนร้องเรียนทั้งสิ้น