ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'กูเกิล' ระงับให้บริการในอุปกรณ์ 'หัวเว่ย' - Short Clip
World Trend - สหรัฐฯ ออกกฎใหม่เตรียมรองรับรถยนต์ไร้คนขับ - Short Clip
World Trend - ไมโครซอฟท์เตรียมเปิดตัวเซอร์เฟซใหม่ 2 ต.ค. นี้ - Short Clip
World Trend - หัวเว่ยซุ่มผลิตสมาร์ตโฟนพับได้ - Short Clip
World Trend - Messenger ส่งวิดีโอ HD และภาพ 360 องศาได้แล้ว - Short Clip
World Trend - แอปเปิลปล่อยอัปเดต iOS 11.4 ก่อนงาน WWDC - Short Clip
World Trend - อาลีบาบายืนยันกำลังทดสอบรถไร้คนขับของตนเอง - Short Clip
World Trend -'สตาร์บัคส์' ให้ใช้ห้องน้ำ-นั่งเล่นได้ แม้ไม่ใช่ลูกค้า - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กเริ่มให้บริการหาคู่ในโคลอมเบีย - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวกล้องจิ๋ว RX0 II พร้อมจอพับได้ - Short Clip
World Trend - ชมพิพิธภัณฑ์ไทย ผ่านกูเกิล Arts and Culture ได้แล้ว - Short Clip
World Trend - มิชลินคิดค้นยางรถไม่ต้องเติมลม - Short Clip
World Trend - กูเกิลเปิดตัว 'ยูทูบมิวสิก' และ 'ยูทูบพรีเมียม' - Short Clip
World Trend - ทวิตเตอร์ฉลองการใช้ 'แฮชแท็ก' ครบ 11 ปี - Short Clip
World Trend - ​'ศิลปศาสตร์' อาจไม่สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ? - Short Clip
World Trend - YouTube เก็บข้อมูลเด็กโดยไม่รับอนุญาต - Short Clip
World Trend - 'กูเกิลโครม' เตือนผู้ใช้ถูกหลอกให้เสียเงินแก้บั๊ก - Short Clip
World Trend -โซนี เผยเซนเซอร์กล้องมือถือที่ชัดที่สุดในโลก - Short Clip
World Trend - ​'ผู้พิทักษ์ชื่อเสียง' บริการออนไลน์สุดฮอตของยุคนี้ ​- Short Clip
World Trend - ขนมอบฮ่องกง 'ไขมันทรานส์' สูงในระดับอันตราย - Short Clip
World Trend - GSMA ดันไทยเป็นผู้นำส่งข้อมูลไร้พรมแดนในอาเซียน - Short Clip
Sep 6, 2018 16:31

สมาคมจีเอสเอ็มเอ (GSMA) ศูนย์รวมผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลก ออกมาเผยว่า การเปิดเสรีให้มีการส่งผ่านข้อมูลข้ามพรมแดนอย่างอิสระ เป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจเชิงดิจิทัลในเอเชีย พร้อมผลักดันให้ไทยขึ้นเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางในการส่งข้อมูลในอาเซียน

จีเอสเอ็มเอ (GSMA) ผู้แทนผลประโยชน์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั่วโลก และเป็นสมาคมศูนย์รวมของผู้ให้บริการเครือข่ายกว่า 750 ราย ในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ออกมาเผยข้อมูลรายงานในการประชุม Mobile 360 - Digital Societies โดยระบุว่า ในปัจจุบันมีการไหลเวียนของข้อมูลด้านดิจิทัลมากมายในแต่ละประเทศ และการไหลเวียนของข้อมูลข้ามพรมแดนเหล่านี้ ช่วยให้จีดีพีโลกเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านของการเป็นพลเมืองดิจิทัล เข้าถึงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐ ในแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมทั้งเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล ที่มีการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนั้น ผู้คนยังต้องพึ่งการรีวิว และข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น 

โดย จีเอสเอ็มเอ ได้จำแนกกลุ่มของประเทศต่าง ๆ ที่มีการไหลเวียนของข้อมูลออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ประเทศกลุ่ม Pro-Flow Policy ที่สนับสนุนการรับส่งข้อมูลระหว่างประเทศอย่างอิสระแบบเต็มรูปแบบ และประเทศกลุ่ม No-Flow Policy ที่จำกัดการรับส่งข้อมูล หรือมีแนวคิดที่จำกัดการไหลเวียนของข้อมูลระหว่างประเทศ 

ซึ่งจากรายงาน ทางจีเอสเอ็มเอ เล็งเห็นว่า ไทยมีประสิทธิภาพในการเป็นประเทศกลุ่ม Pro-Flow Policy และกำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียน จึงสนันสนุนให้ภาครัฐและเอกชน ให้ความสำคัญเรื่องการกำหนดกรอบ ด้านการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทั่วภูมิภาคให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างโอกาสการขยายตัวของการค้าในระดับที่ใหญ่ขึ้น และเพิ่มการเติบโตจีดีพีอีกด้วย

"ถ้าข้อมูลต่าง ๆ มีการไหลเวียนที่อิสระเพิ่มมากขึ้น ภายในเอเปกและภูมิภาคอาเซียน เศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาคจะเติบโตขึ้น เพราะถ้าข้อมูลมีการไหลเวียนแล้ว จะช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นเติบโตขึ้น เข้าถึงบริการได้ดีขึ้น มีพลังขับเคลื่อน และเข้าร่วมในระบบนิเวศดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วย นอกจากนี้ ยังให้ประโยชน์ด้านสังคมเศรษฐกิจ อาจช่วยในการเข้าถึงความรู้ ข่าวสาร วัฒนธรรม และความบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งมันส่งผลดีในภาพรวม"

นอกจากนี้ จีเอสเอ็มเอ ยังมองว่า รัฐบาลในกลุ่มประเทศของภูมิภาคเอเชีย สามารถขยายเศรษฐกิจเชิงดิจิทัลของภูมิภาค และสร้างประโยชน์ทางสังคมเศรษฐกิจให้กับประชากรได้เพิ่มขึ้น โดยยกเลิกข้อกำหนดที่ไม่จำเป็น ที่ควบคุมการไหลของข้อมูลระหว่างประเทศ และยังมองอีกว่า การทำให้กฎเกณฑ์ข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค มีความสมดุลกัน สามารถส่งผลเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างความก้าวหน้าทางนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี 5G เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือ ไอโอที และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย

ซึ่งความร่วมมือด้านมาตรการข้อมูลส่วนบุคคลที่ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียนั้น เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ไม่มีอุปสรรคในการเติบโตทางเศรษฐกิจ และไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในเอเชีย แต่ส่งผลถึงภาพรวมจีดีพีทั่วโลก และจีเอสเอ็มเอ เผยว่า การใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดขึ้นเองในแต่ละประเทศ เพื่อบังคับใช้และควบคุมข้อมูลของประชากรในประเทศ จะเป็นการตีกรอบ รวมถึงเป็นการจำกัดขีดความสามารถขององค์กรต่าง ๆ ในเอเชีย ในการนำเสนอสินค้า หรือบริการต่าง ๆ สู่ผู้บริโภคในตลาดที่กว้างขึ้นในอนาคต โดยเสนอให้ทุกประเทศต้องร่วมมือกัน หามาตรการในการปิดช่องว่างความแตกต่างของกฎและข้อบังคับด้านข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละประเทศ เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งและไปในทิศทางเดียวกัน

Source

YouTube/The GSMA

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog