'อภิสิทธิ์' อ้างม.68 เป็นเหตุผลไม่ไปใช้สิทธิ์
'วันแจ้งความแห่งชาติ' เอาผิดศาล รธน.
ศาล รธน.มีมติ 6 ต่อ 3 ให้เลือกตั้งโมฆะ
ศาลรธน.ไม่รับคำร้องรบ. ออกพรก.ฉุกเฉิน ผิดม.68
สัปดาห์หน้า เงินจำนำข้าวจะถึงมือชาวนา
ประชาชนต้านอำนาจนอกกติกา
เลือกตั้งทดแทน 5 จ.ฉลุย-ผู้ใช้สิทธิ์น้อยกว่าที่คาด
ปชป.ยังไม่ยืนยันลงสมัครรับเลือกตั้ง
รบ.ขอ กกต.เร่งจัดเลือกตั้งเขตที่ยังเป็นปัญหา
ม็อบบุกชุมนุมกดดันธุรกิจในเครือชินวัตร
กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง ส.ว.ชุดใหม่มี.ค.นี้
ประชาชนผิดหวังเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ
การเมืองลากยาว ลากท่องเที่ยวซึมยาว
ประธาน คอ.นธ.ท้าฉีก รธน.ตั้งนายกฯคนกลาง
ภาพรวมเลือกตั้ง ต่างจังหวัด
ศาล รธน.นัดตัดสินเลือกตั้งโมฆะ 21 มี.ค.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ รับทราบข้อกล่าวหาขยายสัมปทานบีทีเอส
กกต.มีมติเปิดลงคะแนนเลือกตั้งทดแทน 11 จังหวัด
ภาพรวมสมัคร ส.ว.วันแรก 239 ราย
ความหวังราชประสงค์ เป็น 'Hub ช็อปปิ้ง' เลือนลาง
ปชป.ยื่นศาล รธน.สั่งเลือกตั้งเป็นโมฆะ
Feb 4, 2014 10:13
พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ อ้างเหตุรัฐบาลเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง ภายใต้สภาวะที่ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานด้านกฏหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหารัฐบาลจัดการเลือกตั้ง ภายใต้สถานการณ์ที่ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์โดยสมบูรณ์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ได้อำนาจ
โดยพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยในสามประเด็น คือ
1. ให้การเลือกตั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นโมฆะ
2. ขอให้วินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย
3. ให้ทำการตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 5 ปี ตามความผิดมาตรา 68
นายวิรัตน์ กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะยังไม่กลับลงสู่สนามเลือกตั้ง เงื่อนไขเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลับลงสู่การเลือกตั้งตามกติกา ต้องมีการปฏิรูปประเทศเกิดขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อย่างไม่เป็นทางการ มีจำนวน 20 ล้าน 4 แสน 6 หมื่น 8 พัน 6 ร้อย 4 สิบ 6 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ใน 68 จังหวัด ที่ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต จำนวน 44 ล้าน 6 แสน 4 หมื่น 9 พัน 7 ร้อย 4 สิบ 2 คน คิดเป็นร้อยละ 45.84
โดยจังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุด ร้อยละ 72.8 ลำดับที่ 2 หนองบัวลำภู 72.50 และลำดับที่ 3 จังหวัดบึงกาฬ มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 70 ขณะที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุด ร้อยละ 0.11
