วิเคราะห์นโยบายต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
สัมภาษณ์พิเศษ ดร.เดวิด เสตร็คฟัส อดีตนักวิจัย มหาวิทยาลัยเกียวโต
'โอบามา' ปฏิเสธ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนอาทิตย์นี้
สิ่งท้าทายของนโยบายต่างประเทศไทยในปี 2556 ตอนที่ 2
ประสบการณ์และบทเรียนค้าปลีกสมัยใหม่ของญี่ปุ่น
สุลต่านบรูไนเข้มกฏหมายชะรีอะฮ์ ใช้อิสลามกำหนดจริยธรรมสังคม
โครเอเชียเข้าร่วมอียู ฮ่องกงประท้วงจีน
ฮีโร่ในสายตาจีนและเกาหลี ผู้ก่อการร้ายในสายตาญี่ปุ่น
'ยิ่งลักษณ์' ติดอันดับ 30 หญิงทรงอานุภาพที่สุดของโลก
นิรโทษกรรมไทยดังลั่นทั่วโลก
ทูตจีนประจำไทยสนใจโครงการรถไฟความเร็วสูง
อินโดนีเซียยอมลงนามสนธิสัญญาหมอกควันอาเซียน
เปรียบเทียบระบบราชการไทยและญี่ปุ่น
สหรัฐฯ แต่งตั้ง 'สตรีเหล็ก' ขึ้นดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
สื่อนอกชี้ ม็อบสุเทพคือม็อบต้านประชาธิปไตย
การปฏิรูปครั้งสำคัญของวาติกัน
ความต่างการอุดหนุนภาคเกษตรไทยและต่างประเทศ
ยิ่งลักษณ์ทัวร์เอเชียใต้ จีนแกล้งลืมเหตุการณ์เทียนอันเหมิน
ปัญหาในเกาหลีใต้ ที่ผู้นำหญิงคนแรกจะต้องเผชิญ
สำรวจเกาะซัคคาลิน กระชับสัมพันธ์ญี่ปุ่น-รัสเซีย
ญี่ปุ่นล๊อบบี้อาเซียน สกัดกั้นอิทธิพลทางทหารของจีน
Dec 14, 2013 08:54
Go Global ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2556
การปรชุมสุดยดประจำปีระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่นเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดี และจะจบลงวันอาทิตย์นี้ แต่ก่อนหน้านี้ มีการหารือนอกรอบระหว่างนากยรัฐมนตรีชินโซ อาเบ๊ะของญี่ปุ่น กับนายนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย เป็นเวลา 45 นาที โดยพุ่งเป้าไปที่ความกังวลใจเกี่ยวกับการกำหนดน่านฟ้าอธิปไตยของจีนที่อาจจะมีการประกาศใช้ ซึ่งจะครอบคลุมเหนือบริเวณหมู่เกาะต่างๆ ทางทะเลที่จีนมีข้อพิพาทร่วมกับญี่ปุ่นและประเทศในอาเซียน รวมถึงมาเลเซียที่มีกรณีพิพาทร่วมกับจีนเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ มาเลเซียเองก็มีความกังวลใจเรื่องนี้และหวังจะใช้การทูตในกรอบพหุภาคี (อาเซียน) ในการเข้ามาแก้ปัญหา ด้านญี่ปุ่นเองก็ต้องการขอความร่วมมือจากอาเซียนในเรื่องนี้ ซึ่งญี่ปุ่นจะมีการหารือในกรอบทวิภาคีร่วมกับผู้นำอาเซียน รวมถึงไทย ในวันอาทิตย์นี้
ความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนยังไม่ยุติ เมื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการรุนแรงมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโกวิชเตือนว่า หากกลุ่มผู้ประท้วงไม่ยุติการชุมนุม อาจจะใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมได้ การเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่แสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลปฏิเสธที่จะเพิ่มความสนใจในความร่วมมือกับสหภาพยุโรป แต่ยังคงต้องการอยู่ภ่ยใต้อิทธิพลของรัสเซียต่อไป โดยกลุ่มผู้ประท้วงบอกว่า ต้องการเปลี่ยนระบอบการเมืองที่ฉ้อฉลของยานูโกวิช จากการสำรวจความเห็นประชาชนพบว่า จากจำนวนประชากรบูยูครนประมาณ 45 ล้านคน ร้อยละ87 ไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ และร้อยละ 79 ไม่พอใจกับระบอบการปกครองภายใต้การนำของยานูโกวิช
อาจมีแนวโน้มที่สหรัฐฯ อาจปรับความสัมพันธ์กับคิวบา ซึ่งเป็นคู่อริตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ทั้งนี้เมื่อผู้นำทั้งสองประเทศ ได้แก่ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้พบกับผู้นำคิวบา นายราอูล คาสโตร ณ งานฌาปนกิจของนายเนลสัน แมนเดล่าที่แอฟริกาใต้ ซึ่งต่าง "เชคแฮนด์" กัน ที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเป้นสัญลักษณ์ของการเปิดการเจรจา สหรัฐฯ กับคิวบาไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ ค.ศ.1961 สองปีหลังจากที่นายฟิเดล คาสโตรขึ้นสู่อำนาจในคิวบา ทั้งนี้ แม้สหรัฐฯ อาจจะมีท่าทีอ่อนข้อบ้าง แต่ก็ตั้งตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในคิวบา รวมถึงเรื่องที่ทางการคิวบาได้จับกุมตัวนายอลัน กร๊อซ ซึ่งทำงานให้กับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในข้อหาอาญชากรแห่งรัฐ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การพบปะกันครั้งนี้อาจไม่ได้นำไปสู่การปรับความสัมพันธ์เลยก็ได้
