รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 10 มีนาคม 2563
นักวิเคราะห์หนุน ถ้า กมธ.ปราบโกง ที่มี “ป๊า – พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์” จะเดินหน้าสอบขบวนการ “ตุนหน้ากากอนามัย” ในภาวะที่หน่วยแพทย์-คนไทยต้องการ เจ้าตัวเผยทนไม่ได้หลังพบความหละหลวมในการสอบสวน ทั้งที่มีช่องทางสอบมากมายที่จะสาวถึงตัวบงการ...พิธีกร Talking Thailand ชี้ อาจได้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ในการสอบ เพราะ “สิระ” ก็ไม่ทน คนตุนหน้ากาก เหมือนกัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า เรื่องนี้มีความสำคัญที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง และพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำ ต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข หรือ กลุ่มคนที่ทำงานให้บริการสาธารณะ
จากการที่ติดตามข้อมูลในเบื้องต้น พบว่ามีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ว่าเป็นการกระทำความผิดเพียง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีการตรวจสอบลงลึกถึงกระบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย ที่เชื่อมโยงถึงคนที่เกี่ยวข้องหลายคน โดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิดกับรัฐมนตรีในรัฐบาล
“ดูเหมือนว่า อาจมีการพยายามช่วยเหลือปกปิดข้อเท็จจริงในบางเรื่องหรือไม่ เช่นการที่ตำรวจช่วยอุ้มผู้ต้องสงสัยหลบนักข่าว โดยอ้างว่าไปเข้าห้องน้ำ หรือตำรวจกำลังปล่อยให้เคลื่อนย้ายหรือทำลายหลักฐานการกักตุนสินค้าอยู่หรือไม่ ที่สำคัญ ทำไมถึงไม่ตรวจสอบบัญชีธนาคารเพราะจะเห็นเส้นทางการเงินที่ชัดเจน”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า การจะลักลอบเอาหน้ากากออกมาจากหน่วยงานรัฐได้ จะต้องมีบุคคลหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้อนุมัติและผู้จัดส่งสินค้า เรื่องเหล่านี้ตรวจสอบได้ไม่ยาก แม้ดูเหมือนว่าจะมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและทำลายพยานหลักฐานก็ตาม
“ทั้งหมดนี้ จึงเป็นประเด็นที่ กมธ.ปปช.จะเข้าตรวจสอบ เพื่อให้ได้คำตอบว่า หน้ากากอนามัยหายไปไหน ใครเกี่ยวข้องกับการกักตุน และนี่ไม่ถือว่าเป็นการกักตุนสินค้าธรรมดา แต่มันคือการกักตุนสินค้าซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันชีวิตคนไทยจากเชื้อไวรัส ท่านนายกฯจะทำเป็นเรื่องล้อเล่น ปล่อยให้คนกักตุนลอยนวลไปเฉย ๆ ไม่ได้