ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยกับลูกน้องมากน้อยเพียงใด ท่านก็ควรให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วย
พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ออกมาพูดโต้ข้อวิจารณ์การวิสามัญฆาตกรรมเด็กลาหู่ ชัยภูมิ ป่าแส หลังจากพูดกันอื้ออึง ตั้งคำถามกันมากมาย การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่..
แม้เราจะได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของพยาน ที่ระบุว่า มีผู้คนเป็น 100 ที่เห็นเหตุการณ์ว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ฝ่ายความมั่นคง ทำร้ายร่างกายชัยภูมิ ป่าแส และชัยภูมิ ป่าแส พยายามดิ้นรน หลบหนี
ประเด็นดังกล่าว ณ วันนี้ถูกเบี่ยงจากการวิสามัญฆาตกรรม ด้วยการบอกว่า น้องน่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับยาเสพติดจริงๆ การเบี่ยงประเด็นนี้ไม่ตอบโจทย์ของสังคม ที่เห็นว่า วิสามัญฆาตกรรมเกินกว่าเหตุหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 3 ถึงกับออกตัวแรง ว่าไม่น่าเกินกว่าเหตุ เห็นคลิปแล้วทำท่าจะโยนระเบิด ถ้าเป็นตนเองก็กดออโต้ไปแล้ว ยิงไปแค่นัดเดียว แต่ดันโดนจุดสำคัญ น้องบุญน้อยไปหน่อย
ไม่ว่าน้องจะมีระเบิดพร้อมปาใส่เจ้าหน้าที่หรือไม่ มียาเสพติดในครอบครองหรือเปล่า หรือเกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่มีสิทธิจะฆาตกรรมน้อง ตราบใดที่เขายังไม่มีทีท่าจะทำร้ายคุณ หรือไม่มีหลักฐานว่าเขาจะทำร้ายคุณ ถ้าคลิปที่แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอ้างมีอยู่จริง ก็ควรเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ มากกว่าจะกล่าวอ้างลอยๆ เพราะชัยภูมิ ป่าแส ก็เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ได้มีความสามารถจะลุกขึ้นมาตอบโต้ได้
สิ่งที่รัฐต้องทำ ไม่ใช่การปกป้องลูกน้องตัวเอง หากลูกน้องทำผิด หรือทำเกินกว่าเหตุจริงก็ต้องยอมรับความจริง เดินหน้าคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิต
ต่อให้เจ้าหน้าที่ทำถูก คือวิสามัญชัยภูมิ ป่าแส เป็นเหตุสมควร เพราะน้องมีท่าทีเตรียมโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐจริง รัฐก็ต้องเปิดเผยข้อมูล ให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ ควรให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วย ไม่ใช่ปกป้องลูกน้องเพราะกลัวไม่มีคนกล้าทำงานอย่างที่กล่าวอ้าง