สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง นักฟิสิกส์ชื่อดังคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในอนาคตอาจเป็นตัวทำลายวิถีชีวิตของชนชั้นกลาง ถึงขั้นที่พวกเขาไม่สามารถมีที่ยืนในสังคมได้
สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง นักฟิสิกส์ชื่อดังให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษว่า ถึงแม้เขาจะชื่นชอบเทคโนโลยีอันทันสมัย แต่เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงขึ้นจนส่งผลให้ชนชั้นกลางไม่มีที่ยืนในสังคม สังเกตได้จากกรณีของ Brexit และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ชนชั้นกลางและรากหญ้าตัดสินใจเลือกนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม แทนที่จะเลือกนักการเมืองที่ให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เนื่องจากคนเหล่านี้มองว่าเทคโนโลยีกำลังพรากวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของพวกเขาออกไป
ฮอว์กกิ้งบอกต่อว่า บริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากกำลังทำตัวเป็นชนชั้นนำในสังคม ด้วยการสร้างเครื่องมือที่ช่วยทดแทนแรงงานของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเข้ามาทดแทนงานหลายประเภท เสมือนว่าพวกเขากำลังกำหนดอนาคตของสังคมด้วยตัวเอง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็อาจทำให้อนาคตเราจะเห็นเฉพาะชนชั้นนำที่มีการศึกษาสูงเท่านั้นที่มีงานทำ ผลที่ตามมาก็คือช่องว่างระหว่างชนชั้นที่ยิ่งสูงขึ้น
ฮอว์กกิ้งเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการนำทุกภาคส่วนหันหน้ามาคุยกัน และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน โดยไม่ทำลายวิถีชีวิตชุมชน ขณะที่ชนชั้นกลางเองก็ควรเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และเข้าใจคอนเซ็ปต์ของโลกาภิวัตน์ ที่ทุกคนทั่วโลกสามารถทำงานช่วยเหลือกันได้อย่างเสรีโดยไม่มีการปิดกั้นตัวเอง