ร้าน "มานี มี หม้อ" ชาบูสัญชาติไทย เดินหน้าขยายสาขาในประเทศให้ครบ 32 สาขาในปี 2559 หวังเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ 20% ภายใน 3-5 ปี นับจากนี้
นายพีรศักดิ์ เหลี่ยมมุกดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เหลี่ยมมุกดา ฟู้ด ไฟท์เตอร์ จำกัด เจ้าของร้านชาบูแบรนด์ "มานี มี หม้อ" เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20 % ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้
จากปัจจุบัน ที่มูลค่าตลาดรวมกลุ่มสุกี้ 10,000 ล้านบาท โดยมีแบรนด์เอ็มเค สุกี้ เป็นเจ้าตลาด รองลงมา ชาบูชิ ซึ่งแนวโน้มการแข่งขันจะรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านชาบูแบรนด์ไทยที่หันมารุกตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนที่จะแตกไลน์ธุรกิจที่สามารถต่อยอดทางร้านได้ อาทิ บริษัทโลจิสติกส์ เป็นต้น
สำหรับแผนงาน ได้แก่ การขยายสาขาในเขตที่มีกำลังซื้อสูงอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ควบคู่กับการขยายสาขาไปยังหัวเมืองหลักในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 32 สาขาในปี 2559 ภายใต้งบลงทุนที่ 5-7 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งสิ้น 5 สาขา มีสมาชิกกว่า 10,000 ราย และลูกค้ากลับมารับประทานซ้ำเฉลี่ย 3 ครั้งต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายที่ 600 บาทต่อคน โดยมั่นใจว่าจะสร้างรายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2559 หรืออาจเร็วกว่านี้
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อศึกษาตลาดในฝั่ง สปป.ลาว เพราะเป็นจังหวัดที่ผู้บริโภคจาก สปป.ลาว เข้ามาจับจ่ายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการขยายสาขาไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนในช่วง 2 ปีจากนี้ เริ่มที่เมียนมา ก่อนในรูปแบบการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ส่วนที่สิงคโปร์ อยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณากลุ่มทุน
Source
- https://www.facebook.com/maneememore/