ร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ เป็นธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในย่านอาซะคุสะของกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น เป็นธุรกิจย่อยของบริษัททัวร์ 'ฮอลิเดย์ แจ็ก' ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการจัดกิจกรรมแปลกแหวกแนว และคาเฟ่แห่งนี้เพิ่งจัดกิจกรรมพิเศษไปเมื่อวันที่ 20-23 ก.ย.2562 ด้วยการชวนลูกค้ามาชิม 'ราเม็งปลาปิรันย่า' โดยรับประกันว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่นำปลาปิรันย่ามาทำเป็นเมนูราเม็งให้ได้ชิมกัน

'โทโมอากิ ยาโนะ' ประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทฮอลิเดย์ แจ็ก ผู้จัดกิจกรรมราเม็งปลาปิรันย่า เปิดเผยว่า ทางร้านนำเข้าปลาปิรันย่าจากลุ่มแม่น้ำแอมะซอนของบราซิล จำนวน 300 กิโลกรัม โดยมีจำนวนประมาณ 2,000 ตัว นำมาต้มเป็นน้ำซุปราเม็ง รวมถึงทอดกรอบรับประทานร่วมกับเส้นราเม็ง ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดนี้ สามารถทำเป็นราเม็งได้ประมาณ 1,000 ชาม ทำให้ทางร้านจัดทำเมนูนี้เป็นพิเศษเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น

Ruptly-เจ้าของบริษัทฮอลิเดย์ แจ็ค-ราเม็ง-ราเมน-ราเมงปิรันย่า-Piranha Ramen-1.png

'โทโมอากิ ยาโนะ' ประธานบริหารบริษัทฮอลิเดย์ แจ็ค เจ้าของกิจการนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์

ราเม็งปิรันย่ามีให้เลือก 2 เมนู คือ ราเม็งพร้อมน้ำซุปปิรันย่า ราคาชามละ 3,000 เยน หรือประมาณ 844 บาท ส่วนราเม็งน้ำซุปปิรันย่า เสิร์ฟพร้อมหัวปลาปิรันย่า จะราคาต่อชาม 5,500 เยน หรือประมาณ 1,548 บาท

ลูกค้าที่มีโอกาสได้รับประทาน 'ราเม็งปิรันย่า' บอกเล่าความรู้สึกว่า ในตอนแรกคิดว่าปลาคงจะไม่มีเนื้อเยอะมากนัก และไม่แน่ใจเรื่องรสชาติว่าจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้ชิมแล้วรู้สึกว่ารับประทานง่าย เนื้อปลาปิรันย่าให้รสชาติและกลิ่นคล้ายกับ 'ปลาจาน' ซึ่งในประเทศไทยมีปลาที่อยู่ในวงศ์นี้ เรียกว่า 'ปลาอีคุด'

ขณะที่ลูกค้าอีกรายหนึ่งบอกว่า น้ำซุปที่เคี่ยวจากปลาปิรันย่านั้นรสชาติอร่อยดี จนสามารถรับประทานหมดได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือการแกะก้างปลาทำได้ง่ายกว่าที่คิดมาก

Ruptly-ราเม็ง-ราเมน-ราเมงปิรันย่า-Piranha Ramen-2.png

ราเม็งปลาปิรันย่าซึ่งรอการเพิ่มเติมวัตถุดิบตกแต่งอื่นๆ ลงไปในนชาม

เจ้าของไอเดียราเม็งปิรันย่าระบุด้วยว่า ต้นตอที่ทำให้เกิดเมนูนี้ขึ้นมาจริงๆ เกิดจากวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเอพริลส์ฟูล (April's Fool Day) บริษัทฮอลิเดย์ แจ็ค ได้ออกโฆษณาหลอกๆ ว่า ทางร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ จะจำหน่ายราเม็งปิรันย่า แต่ปรากฏว่ามีคนสนใจและถามกันเข้ามามากว่ามีเมนูนี้จริงๆ หรือไม่ ทำให้ทางบริษัทต้องจัดหาเมนูนี้มาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สนใจ

ส่วนสาเหตุที่ต้องรอนานหลายเดือน เป็นเพราะเส้นทางขนส่งปลาปิรันย่าเหล่านี้ต้องใช้เวลานาน โดยเริ่มจากลุ่มน้ำแอมะซอนไปยังนครรีโอเดจาเนโร ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจของบราซิล จากนั้นจึงถูกส่งต่อไปยังสหรัฐอเมริกา ก่อนจะมาถึงปลายทางที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น คิดเป็นราคากิโลกรัมละ 10,000 เยน หรือประมาณ 2,800 บาท ทำให้ราคาต่อชามของราเม็งปิรันย่าที่เอามาจำหน่ายแพงกว่าราเม็งทั่วไปในท้องตลาดหลายเท่า

Ruptly-ลูกค้าญี่ปุ่นที่กินราเม็งปลาปิรันย่า.png

คานาโกะ โทโมฮิโระ (ขวา) บอกว่าปลาปิรันย่ารสชาติคล้ายกับปลาจาน

ปลาปิรันย่าเป็นที่รู้จักในฐานะ 'ปลาน้ำจืด' ที่ 'กินเนื้อ' เป็นอาหาร พบมากในแม่น้ำแอมะซอน รวมถึงแม่น้ำบางสายในทวีปอเมริกาใต้ มีพฤติกรรมดุร้าย แม้แต่สัตว์ใหญ่ที่อยู่ในน้ำก็อาจถูกฝูงปลาปิรันย่าโจมตีและกินเนื้อเป็นอาหารได้ โดยเฉพาะสัตว์ที่บาดเจ็บและมีเลือดไหล

ส่วนการบริโภคปลาปิรันย่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะชาวอเมริกาใต้จำนวนมากก็รับประทานปลาปิรันย่าอยู่แล้ว แต่ที่นำมาทำเป็นราเม็งนั้น ทางร้านนินจา คาเฟ่ แอนด์ บาร์ โฆษณาว่าร้านของเขาเป็นเจ้าแรกที่ทำเมนูนี้

การนำเข้าปลาปิรันย่ามายังประเทศไทย ห้ามนำเข้าตัวที่ยังมีชีวิต เพราะถือเป็นสัตว์ต่างถิ่น ถ้าเข้ามาในประเทศแล้วถูกปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ แต่ถ้านำเข้ามาในรูปอาหารแช่แข็งเพื่อนำมาบริโภค เช่น ร้านอาหาร หรือภัตตาคาร สามารถนำเข้ามาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ที่มา: Ruptly/ Sora News

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ราเม็ง

ARTICLE

ต่างประเทศ

รีวิว 'ราเม็งปลาปิรันย่า' รสชาติเป็นอย่างไร?