นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ 50 คนเตรียมยื่นหนังสือลาออกวันจันทร์นี้ (28 ต.ค. 2562) ว่า ตนได้ทราบจากข่าว แต่ไม่มีการเข้ามาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่การก่อตั้งพรรคมีคนมารวมกัน และถ้ามาถึงจุดที่มองว่าพรรคไม่ตอบโจทย์ก็มีเสรีภาพในการถอนตัว ทุกพรรคมีคนเข้าและออกเป็นเรื่องปกติ หลายพรรคก็มีคนลาออกไปตั้งพรรคใหม่ก็มี

ส่วนเหตุผลที่นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี เขต 2 ให้เหตุผลว่าในพรรคมีความเป็นเผด็จการที่แกนนำ และแบ่งชนชั้น นายปิยบุตร กล่าวว่าเป็นมุมมองของผู้สมัคร แต่ยืนยันว่าไม่มีการแบ่งชนชั้น ตนวางระบบให้พรรคเป็นของมวลชนและมีประชาธิปไตยภายในพรรค ส.ส. และสมาชิก สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันเองและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ ทุกวันจะมีหนังสือร้องเรียนเข้ามาอยู่เสมอรวมถึงหนังสือที่มีการวิจารณ์การทำงานของตนเองและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งถือเป็นช่องทางภายในพรรคแต่สมาชิกพรรคบางคนกลับไปใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือช่องทางสื่ออื่นถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล ย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เปิดกว้างมากในการ วิพากษ์วิจารณ์ แต่พรรคก็มีวินัยของพรรคอยู่

ส่วนปัญหาการแบ่งสันปันส่วนตำแหน่งผู้ช่วย ส.ส. อย่างไม่เท่าเทียบนั้น นายปิยบุตรกล่าวว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ใช้วิธีให้ ส.ส. เลือกผู้ช่วย ส.ส.กันเองแบบที่พรรคอื่นทำ แต่พรรคอนาคตใหม่มีกติกาที่ให้แบ่งตำแหน่งตามสัดส่วนโควต้าของพรรค เนื่องจากเห็นว่าคะแนนเสียงที่ได้รับมาไม่ได้มาจาก ตัว ส.ส. คนเดียว แต่มาจากทุกองคาพยพในพรรคช่วยกัน จึงจำเป็นต้องแบ่งสันปันส่วนให้ทั่วถึง ทั้งอดีตผู้สมัคร ส.ส. คณะทำงานจังหวัด พนักงานของพรรค แต่ตำแหน่งมีอย่างจำกัด แต่มีจำนวนคนมากกว่า ก็มีทั้งคนที่ได้และไม่ได้ ทำให้บางคนที่ไม่ได้รับตำแหน่งไม่พอใจบ้างก็เป็นเรื่องปกติ แต่จะมีการแทรกแซงจาก พรรคการเมืองอื่นหรือไม่นั้น ไม่ทราบ

ทั้งนี้นายปิยบุตร ยืนยันว่าเหตุผลที่นายนิพนธ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งเรื่องอดุมการณ์พรรคที่เปลี่ยนไป ก็ไม่ใช่ความจริง อุดมการณ์พรรคไม่เปลี่ยน มีอุดมการณ์ที่ยึดโยงกันเป็นกระดูกสันหลัง แต่รายละเอียดว่าเรื่องใดทำก่อน-ทำหลังอาจจะเห็นไม่ตรงกัน

วิเคราะห์แพ้เลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เพราะ ปชช.เน้นคนดูแลพื้นที่ได้มากกว่าเลือกนายกฯ

นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงการที่พรรคอนาคตใหม่แพ้เลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐม ได้มีการหารือเรื่องนี้กับนายธนาธร จนถึงตี 2 เบื้องต้นพบว่า พฤติกรรมของประชาชนในการเลือกตั้งซ่อมต่างจากการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่เน้นดูจากความเป็นพื้นที่มากกว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี

ประกอบกับ พรรคชาติไทยพัฒนาขายความเป็นคนในพื้นที่มากกว่าที่จะขายความเป็นฝ่ายรัฐบาล ทำให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ขณะที่พรรคอนาคตใหม่เองก่อนหน้านี้มีการหาเสียงระดับประเทศมากกว่าท้องที่ ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้น พรรคอนาคตใหม่ต้องเตรียมปรับปรุงโดยการเน้นลงพื้นที่ เพื่อพร้อมสู้ในการเลือกตั้งซ่อมในอนาคต โดยเฉพาะที่ จ.สมุทรปราการ เพราะคะแนนที่ได้จากสมุทรปราการจะถูกนำไปคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ส่วนที่ จ.ขอนแก่น และ จ.กำแพงเพชร นั้นพรรคจะถอยให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน

ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบ ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ 2563 นั้น นายปิยบุตรเปิดเผยว่าจะเริ่มมีการเรียก ส.ส. ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

กลุ่มพัทยาเขต 7 เดือด! กดดัน 'กวินนาถ' ทิ้ง ส.ส. - หากเมินกระแสต้าน ล่า 2 หมื่นชื่อถอดถอนทันที

นิพนธ์ แจ่มจำรัส

ARTICLE

การเมือง

'ปิยบุตร' เมิน 50 ผู้สมัคร อนค. ลาออก ยันจุดยืนพรรคเหมือนเดิม