ไม่พบผลการค้นหา
ประธานคณะก้าวหน้า ชวนนายกรัฐมนตรีไทย ศึกษาแผนบริหารประเทศอังกฤษ ฝ่าวิกฤตโควิดด้วยการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุความเห็นกรณีการแถลงข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในญานะประธานที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่งมีมติยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด ระลอกเดือนเมษายน เบื้องต้นเพิ่มพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดเป็นสีแดง 18 จังหวัด และ พื้นที่สีส้ม 59 จังหวัด 

โดย ธนาธร ได้เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ศึกษาการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของประเทษอังกฤษ ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศความหวัง เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เห็นตรงกัน คนจะเริ่มใช้จ่ายในไม่ช้า ปัจจุบันอังกฤษฉีดวัคซีนไปแล้ว 60.6% ของจำนวนประชากร และมีประชากรที่ฉีดครบสองเข็มไปแล้ว 12.2%

อังกฤษกำลังจะเปิดให้ประชาชนทำกิจกรรมตามปกติ หลังจากมีการล็อกดาวน์ป้องกันการระบาดรอบสามตั้งแต่เดือนมกราคม บริการต่างๆ ทยอยกลับมาค้าขายดำเนินการได้ตามปกติในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมสดใส เมื่อทุกคนรู้ว่าอีกไม่นานวัคซีนจะฉีดได้ครบ ชีวิตปกติกำลังจะกลับมา 

ธนาธร ยกตัวอย่างอีกว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดคะเนเศรษฐกิจอังกฤษจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะในช่วงการแพร่ระบาด ประชาชนจำนวนมากไม่ได้ใช้จ่าย ในขณะที่รัฐบาลให้การดูแลอย่างครอบคลุม ทำให้ครัวเรือนมีเงินเก็บในช่วงโควิดมากถึง 180,000 ล้านปอนด์ หรือเทียบเท่ากับ 10% ของระบบเศรษฐกิจ

หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ กล่าวว่าตอนนี้เศรษฐกิจมีสภาพเหมือนกับ “ขดลวด” ที่รอคอยการระเบิด ประชาชนอังกฤษรอคอยที่จะใช้จ่ายเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลอังกฤษให้สัญญากับประชาชนว่า ภายในเดือนกรกฎาคม ผู้ใหญ่ทุกคนในประเทศจะต้องได้ฉีดอย่างน้อยเข็มแรก

"เมื่อกลับมาดูสถานการณ์ในประเทศไทย เวลานี้เรากำลังกลับเข้าสู่สถานการณ์กึ่งล็อกดาวน์อีกครั้ง จากการแถลงของรัฐบาล ส่วนแผนการฉีดวัคซีนของประเทศไทย กำลังจะเริ่มมีการฉีดในปริมาณมากในเดือนกรกฎาคม แม้จะช้าไปมากแล้ว แต่ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี"

ประธานคณะก้าวหน้า ระบุอีกว่า แม้หลายสิ่งที่คาดการณ์ไว้ได้เกิดขึ้นเป็นจริงแล้วในประเทศไทย แต่ตนก็ยังแอบหวังว่ารัฐบาลจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ เพื่อฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ในจำนวนที่มากพอจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และที่นายกรัฐมนตรีแถลงว่ามีแผนจะพยายามจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นเพิ่มอีก แม้จะช้าไปมากแล้วก็ตาม ก็หวังว่าจะดำเนินการได้ลุล่วงเพื่อให้บรรยากาศแห่งความหวังเช่นนี้กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง