หากนับจุดเริ่มต้น 25 มิ.ย. 2564 ของวิกฤตโควิด-19 ระลอกสี่ สายพันธุ์์เดลต้า อุบัติขึ้นเป็นทางการในประเทศไทย พบยอดผู้ป่วยสะสมจากการติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 207,428 ราย และมีผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวน 3,644 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 44 ราย

จนมีการคาดการณ์ว่าในสัปดาห์ถัดไปอัตราการติดเชื้อในประเทศจะเพิ่มขึ้นสูงอีกเท่าตัว ทำให้ วันที่ 25 มิ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้ประชุมร่วมกับศปก.ศบค.และทีมแพทย์ เพื่อประเมินถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ารวมทั้งการบริหารจัดการวัคซีน โดยย้ำว่าจะเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ให้ได้ภาายในเดือน ก.ค.- ส.ค.นี้

หลังการประชุมดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมทีมแพทย์ที่ปรึกษา ศบค. ออกมายืนยันต่อสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ในช่วงต้นๆที่ประเทศไทยเริ่มจะเผชิญกับโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า จนกลายเป็นวาทะร้อนดุเดือดในโลกโซเชียลฯในเวลาต่อมา

"ผมก็รู้ทุกคนก็เดือดร้อน ผมก็เดือดร้อนใจยิ่งกว่าท่านอีก เพราะผมเป็นผู้รับผิดชอบ"

"การจำกัดแหล่งแพร่เชื้อแพร่ระบาดรัฐบาลก็ดูแลเข้าใจไหมจ๊ะ"

"โอเคไหมจ๊ะ" 

"ผมคุยกับทูตต่างประเทศที่มา ชมทั้งวัน ไม่ใช่ชมเอาใจผมนะ เขาบอกรัฐบาลเขาฝากชมมาประเทศไทย ถึงแม้สถานการณ์จะรุนแรง แต่เขาเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทยจะแก้ได้ เพราะเราทำได้ดีมาตลอด อันดับต้นของโลกนะ อันดับ 6 ของโลกนะ เราจะทำลายระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้"

"คนที่จะแก้ปัญหาให้กับเราก็คือ คนไทยทุกคนนะจ๊ะ ขอเพียงกำลังใจเท่านั้นเอง ได้ไหมล่ะ ขอได้ไหม"

จากน้ันนายกรัฐมนตรีได้ชู 2 นิ้วพร้อมกับระบุว่า เชื่อใจไหมว่าฉันจะทำให้สำเร็จ จงเชื่อต่อไป แล้วใครจะทำต่อ ฉันล้วงแคะแกะเกามาแก้ วันนี้อารมณ์ดีวันศุกร์

(พล.อ.ประยุทธ์ ประชุมร่วมกับทีมแพทย์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 ให้ความเชื่อมั่นกับสื่อฯประจำทำเนียบฯ)

28 มิ.ย. 2564 ยอดผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นหนักกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าวมียอดผู้ป่วยใหม่ จำนวน 5,406 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 22 ราย และเป็นวันแรกของการเริ่มมาตรการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) โดยล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา) พร้อมทั้งล็อกดาวน์ปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นเวลา 30 วัน ส่วนการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซื้อซื้อเฉพาะนำกลับเท่านั้น

นับจากนั้นเป็นต้นมา ภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงหลบฉากกระแสร้อนโควิดนอกทำเนียบฯ ทันที ซึ่งอาจจะเป็นการเลี่ยงไปพบปะสังคมที่จะทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 โดยเน้นปฏิบัติหน้าที่อยู่แต่ในทำเนียบรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผ่านการทำงานด้วยการใช้การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VDO Conference) 

เป็น 35 ภารกิจที่ปฏิบัติการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาลและบ้านพักส่วนตัวจากการเวิร์กฟรอมโฮมในระหว่างที่กักตัวเพื่อดูอาการหลังใกล้ชิดกับประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการร่วมงานตรวจราชการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564

ในห้วงวันที่ 28 มิ.ย. - 2 ส.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิบัติหน้าที่นอกทำเนียบรัฐบาลเพียง 3 ภารกิจเท่านั้น คือ

ภารกิจแรก คือ 1 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในการเดินทางไปตรวจราชการ Phuket Sandbox 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุในระหว่างตรวจราชการที่ จ.ภูเก็ต ในครั้งนั้นว่า "ประเทศไทยต้องเดินไปในข้างหน้า 120 วันตามที่ผมพูด ตรงไหนเปิดได้เปิดเมื่อไหร่ทำได้ทำ ฉะนั้นตัวอย่างเกิดขึ้นอย่างนี้จึงเรียกว่าจะบ็อกซ์ จะเห็นได้ว่าจะเห็นประเทศในยุโรป มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก ประเทศที่เคยเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากในทุกปี วันนี้มีสถิติเข้ามาอีกนี่คือลูกค้าเรา"

"เราต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ แต่เศรษฐกิจก็ต้องเดินไปด้วยเดินอย่างระมัดระวังเดิน อย่างผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็ต้องมีมาตรการ มีอย่างเดียวคือกฎหมาย หากไม่มีสักอย่างก็อยู่ไม่ได้"

"บางประเทศไม่เคยมาประเทศไทยก็มา แสดงให้เห็นว่ามาตรการที่เปิดที่ภูเก็ตเป็นมาตรการที่ยอมรับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกาของเรา ถ้าเปิดมั่วไปหมดก็มีปัญหาเหมือนเดิม ถูกหรือไม่ วันนี้จึงขอความร่วมมือกับประชาชน รัฐบาลยืนยันไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งใครอยู่ข้างหลังแต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหาไป"

ภารกิจที่สอง คือ 23 ก.ค. 2564 วาระงานทำเนียบรัฐบาลไม่ได้แจ้งภารกิจของนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ปรากฏตัวออกปฏิบัติหน้าที่นอกทำเนียบฯ อีกครั้งในรอบ 22 วัน โดยช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ โรงพยาบาลสนาม ณ สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต 

5 ก.ค. - 15 ก.ค. 2564 เป็นห้วงเวลาที่ พล.อ.ประยุุทธ์งดปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล แต่เน้นประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แทน เพราะต้องเฝ้าสังเกตอาการจากการกักตัวหลังใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.ภูเก็ต

ถัดจากนั้นวันที่ 16 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ เข้าปฏิบัติงานในทำเนียบฯ เป็นครั้งแรกหลังกักตัวเพื่อสังเกตอาการโควิด-19 เรียบร้อยและผลตรวจพบว่าตัวเองไม่ติดเชื้อโควิด-19 โดยวันดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ (APEC Informal Leaders’ Retreat) (ผ่านระบบ Video Conference) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

ภารกิจที่สาม คือ 29 ก.ค. 2564 ทำเนียบรัฐบาลแจ้งวาระนายกรัฐมนตรี เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายเครื่องราชสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2564 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

อีกทั้ง เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลแจ้งให้ทราบว่า เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19 ) หรือ ศบค. ในการควบคุมโควิด-19 ขอขยายระยะเวลางดสื่อมวลชน เข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาล ไปจนถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้เวลาช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักตลอดเดือน ก.ค. 2564 เก็บตัวปฏิบัติภารกิจผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นส่วนใหญ่ และงดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่มอบหมายให้ 'อนุชา บูรพชัยศรี' โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาตอบคำถามหรือชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี

29 ก.ค. 2564 เป็นครั้งแรกนับแต่เก็บตัวไม่ตอบคำถามออกสื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมตอบคำถามสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกนับแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 โดยให้ นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ

ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงยืนยืนคำเดิมว่า ยังไม่ใช่เวลาถึงที่จะถอดใจลาออกจากตำแหน่ง โดยวันนี้ทำงานหนักทุกวันหลายคนก็บอกว่าทำงานหนักแล้วไม่เห็นได้งานก็ขอไปหาให้เจอว่ามีงานอะไรที่ออกมาแล้วบ้าง ซึ่งคิดว่าตนก็พยายามทำอย่างที่สุดแล้ว ด้วยการฟังเสียงประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์จากคณะแพทย์ และสาธารณสุข วันนี้เห็นใจคนเหล่านี้สอบถามบางคนทำงานติดต่อกัน 60 วันไม่ได้พักเป็นปีแล้ว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังใช้ช่วงที่ทำงาน เวิร์กฟรอมโฮมหรือปฏิบัติภารกิจในทำเนียบฯ โดยเลี่ยงออกหมายงานที่พบปะผู้คนส่วนใหญ่ ด้วยการใช้ช่องทางสื่อสารผ่านเฟซบุ๊กเป็นหลัก และปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha 

โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กตลอดเดือน ก.ค. 2564 จำนวน 11 ครั้ง

ครั้งแรก 1 ก.ค. 2564 โพสต์ข้อความและภาพถ่ายขณะอยู่บนเครื่่องบินลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ภูเก็ต เพื่อเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 

"แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง อย่างตอนนี้ ในบางประเทศ ทั้งในประเทศใหญ่ และประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย ล่าสุดเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มกลับขึ้นมาอีก แต่เราจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ครั้งที่ 2 วันที่ 5 ก.ค. 2564 โพสต์แสดงความเสียใจจากกรณีเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่ ซ.กิ่งแก้ว 21 จนมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 1 นาย และผู้มีบาดเจ็บจำนวนมาก 

ครั้งที่ 3 วันที่ 6 ก.ค. 2564 โพสต์ถึงสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้เคมีคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมสั่งการให้มีการสำรวจและจำกัดความเสียหายในเรื่องอื่นๆ ที่อาจจะตามมา 

ครั้งที่ 4 วันที่ 7 ก.ค. 2564 โพสต์ถึงการปฏิบัติงานที่บ้านพักด้วยการเวิร์กฟรอมโฮม หลังต้องสังเกตอาการตัวเองจากการไปใกล้ชิดผู้ติดโควิดที่ จ.ภูเก็ต พร้อมโพสต์ภาพนั่งโต๊ะทำงานมีกรอบภาพปิดทองหลังพระ และระบุด้วยว่า "รัฐบาลได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้"

ครั้งที่ 5 วันที่ 8 ก.ค. 2564 โพสต์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนัก โดยระบุว่า "ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยกันดูแล ป้องกันตัวเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติไปด้วยกัน ไม่มีใครหรือประเทศใด ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาโควิดได้สำเร็จโดยคนเพียงคนเดียว หรือหน่วยงานเดียว ในยามที่เปรียบเสมือนการทำสงครามกับเชื้อไวรัสในครั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้เราชนะได้ คือความสามัคคีของคนในชาติ ความมีวินัย ความอดทน การร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกันของคนในชาติ"

ครั้งที่ 6 วันที่ 13 ก.ค. 2564 ชี้แจงถึงมาตรการเข้มข้นล็อกดาวน์ปิดสถานที่สำคัญทางเศรษฐกิจและชี้แจงถึงมาตรการเยียวยาใน 10 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ

ครั้งที่ 7 วันที่ 16 ก.ค. 2564 ชี้แจงถึงการยกระดับมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวโดยขอประชาชนให้ลดการเดินทางออกนอกเคหสถาน

"ผมขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันตระหนักถึงความจำเป็นที่เราอาจจะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมากขึ้นในเร็วๆนี้ และอาจจะทำให้เราได้รับผลกระทบ ได้รับความไม่สะดวกในหลายๆอย่าง แต่ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านได้เข้าใจว่า ทุกมาตรการที่ออกมา มาจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งทางด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ และผมเชื่อว่า หากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันได้อย่างเต็มที่ ประเทศไทยจะต้องฝ่าวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็วที่สุดครับ"

ครั้งที่ 8 วันที่ 20 ก.ค. 2564 โพสต์ชี้แจงถึงศบค.มีมติประกาศล็อกดาวน์ จำกัดการเดินทางในจังหวัดสีแดงเข้มที่เพิ่มขึ้นเป็น 13 จังหวัด และปิดกิจการต่างๆ อย่างน้อย 14 วัน เพราะเกรงว่าสถานการณ์อาจจะร้ายแรงขึ้นจนยากต่อการควบคุม

ครั้งที่ 9 วันที่ 21 ก.ค. 2564 ชี้แจงถึงการประชุมร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อออกมาตรการเยียวยาค่าเทอมให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา

ครั้งที่ 10 วันที่ 21 ก.ค. 2564 ชี้แจงอีกครั้งหลังร่วมประชุมทาง VDO Conference กับสภาหอการค้าไทย และซีอีโอชั้นนำของประเทศไทยกว่า 80 ท่าน เป็นตัวแทนจากภาคเอกชน 

ล่าสุดครั้งที่ 11 วันที่ 27 ก.ค. 2564 ชี้แจงถึงกรณีที่ประชุม ครม.เห็นชอบลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษาตามข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษาฯ ให้ช่วยเหลือผู้ปกครองและนักศึกษารวมทั้งสถานศึกษาทั่วประเทศ ในการลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ในภาคเรียนที่ 1/2564 งบประมาณรวม 33,000 ล้านบาท รวมทั้งชี้แจงถึงเฟคนิวส์ ว่าหน่วยงานรัฐกำลังแก้ไขสถานการณ์กันอย่างเต็มที่ แต่เรากลับต้องเผชิญกับปัญหาข่าวปลอม หรือ Fake News ที่กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในสังคมเป็นอย่างมาก 

แม้วันที่ 27 ก.ค. 2564 โทนี่ วู้ดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านรายการ Care Talk x Care ClubHouse ถึงการแก้ปัญหาโควิด-19 โดยเสนอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ว่า "ถือว่าเชื่อพี่ก็แล้วกันน้องเอ้ย...อย่าไปคิดว่าเสียฟอร์มเลย ลับหลังเราคุยกันมากว่านี้ได้ ท่านอย่าเวิร์กฟรอมโฮม แต่งพีพีอีลงไปเลย"

"ท่านลงไป 2 ที่นะ วันนี้ออเต็มแน่นไปหมด ไม่ต้องไปกลัว ใส่พีพีอี ใส่หน้ากาก N95 เฟซชิลด์ หมอหนู (อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข) จะวิ่งตามเลย"

แต่ตลอด 1 เดือนเต็มในห้วงเดือน ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังคงเน้นภารกิจทำงานในทำเนียบรัฐบาล และสั่งการผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นหลัก รวมทั้งออกมาตรการเข้มผ่านการออกข้อกำหนด ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นับแต่มีสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนัก จากฉบับที่ 25 ไปจนถึงฉบับที่ 30 แล้ว

• ภารกิจนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 28 มิ.ย. 2564 - 2 ส.ค. 2564 (35 ภารกิจหมายงานนายกฯ ที่ไม่ได้ออกนอกทำเนียบฯ)

28 มิ.ย. 2564 

14.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2564 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 4/2564 (ผ่านระบบ VDO Conference) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

29 มิ.ย. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

30 มิ.ย. 2564 

เวลา 13.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ VDO Conference) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

1 ก.ค.2564 

นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ในการเดินทางไปตรวจราชการ Phuket Sandbox ณ จังหวัดภูเก็ต

5 ก.ค. 2564

เวลา 09.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ VDO Conference) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

6 ก.ค. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference

7 ก.ค. 2564

เวลา 09.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง ครั้งที่ 1/2564 (ผ่านระบบ VDO Conference)

9 ก.ค. 2564

เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบ Video Conference

12 ก.ค. 2564

เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากรัฐบาลญี่ปุ่น (ผ่านระบบ Video Conference) โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และนายนาชิดะ คาซูยะ (Mr. NASHIDA Kazuya)เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนของแต่ละฝ่าย ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 09.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

เวลา 11.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ (APEC Informal Leaders' Retreat) (ผ่านระบบ Video Conference)

เวลา 13.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy : BCG Model) ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) 

13 ก.ค. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ผ่านระบบ Video Conference)

14 ก.ค. 2564

เวลา 09.30 น.​  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

เวลา 13.30 น.​  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

15 ก.ค. 2564 

เวลา 18.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model (ผ่านระบบ Video Conference) 

16 ก.ค. 2564

เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ (APEC Informal Leaders’ Retreat) (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

19 ก.ค. 2564

เวลา 10.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานต้นแบบ (Battery Pilot Plant) ในรูปแบบเสมือนจริง (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

20 ก.ค. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ผ่านระบบ Video Conference)

21 ก.ค. 2564

เวลา 14.00 น.  คณะผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

14.20 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ 40 ซีอีโอ เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

22 ก.ค. 2564

เวลา 09.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 3/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

เวลา 13.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

23 ก.ค. 2564

วาระงานทำเนียบรัฐบาลไม่ได้แจ้งภารกิจของนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประยุทธ์

ช่วงบ่าย 23 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ โรงพยาบาลสนาม ณ สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต โดย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้ใช้พื้นที่สำหรับดูแลผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด แก้ปัญหาเตียงในทุกสีของอาการป่วย ซึ่งการดำเนินการเป็นด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน 

19.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ เรียก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมท้ังผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมติดตามการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนาม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

27 ก.ค. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 

28 ก.ค. 2564

เวลา 08.30 น.  นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่ม ถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ณ ภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

29 ก.ค. 2564

เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายเครื่องราชสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2564 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เวลา 11.00 น. อะห์หมัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี (Ahmed Adbulla Al-Hajeri) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 13.30 น. เกส ปีเตอร์ ราเดอร์ (H.E. Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 14.30 น. อานา ลูซี เชนทิล กาบรัล เพเทอร์เซิน (H.E. Mrs. Ana Lucy Gentil Cabral Petersen) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 15.30 น. อะศิม อิฟติคัร อะห์หมัด (H.E. Mr. Asim Iftikhar Ahmad) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

30 ก.ค. 2564

14.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) และโรงพยาบาลเอกชน (ผ่านระบบ Video Conference)

1 ส.ค. 2564

เวลา 13.30 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 11/2564 (ผ่านระบบ Video Conference)

2 ส.ค. 2564

09.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 (Pfizer) จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

09.20 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 (AstraZeneca) จากรัฐบาลสหราชอาณาจักร ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

10.00 น.  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนใช้บริการเดินรถโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

15.00 น. อิกนาซิโอ กัสซิส (H.E. Mr. Ignazio Cassis) รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมาพันธรัฐสวิส เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• มรสุมศรัทธา 'ประยุทธ์' เจอ'เดลต้า'พ่นพิษ 1 เดือนยอดพุ่ง 3.4 แสนราย 'ไทย' จาก76 ขึ้น 43 ของโลก
• 'โทนี่' เชื่อไม่มีนายกฯพระราชทาน แนะ 'ประยุทธ์'ลาออกเป็นนายกฯแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้
• 'ประยุทธ์' วอนเชื่อมั่น รบ.-ชู 'ภูเก็ต'ต้นแบบเปิดรับท่องเที่ยว-เอาจริงลุยเปิดประเทศ 120 วัน
• เปิดไทม์ไลน์หายนะ 120 วัน-เดดไลน์ 14 ต.ค. เปิดประเทศ-ปิดฉากเผด็จการ ?
• 'ประยุทธ์'ยกระดับสู้ 'เดลต้า'เคอร์ฟิว 13 จังหวัดสีแดงเข้ม-งดออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น