ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ขอบคุณคนไทย-เจ้าหน้าที่ระดมฉีดวัคซีนวันมหิดลทะลุเกิน 1 ล้านโดส ยันก่อนสิ้นปีต้องฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส 50 ล้านคน รองรับเปิดการท่องเที่ยวปลายปีนี้ ทั้งนี้ นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ประชุมระดับผู้นำด้านพลังงาน ยันไทยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของยูเอ็น

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ก.ย. 2564) หรือวันที่ 24 ก.ย. 2564 เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านพลังงาน (High-level Dialogue on Energy Summit 2021) ซึ่งจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสาระสำคัญในวีดิทัศน์ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรี ดังนี้

การประชุมในวันนี้เป็นโอกาสที่ประเทศต่าง ๆ จะได้ร่วมกันพิจารณาแผนงานระดับโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน โดยเร่งรัดการดำเนินการตามเป้าหมายที่ 7 ของสหประชาชาติ ในเรื่องการประกันการเข้าถึงการบริการด้านพลังงานที่สะอาดและราคาที่จับต้องได้ มุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ และการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ไม่ให้เกิน 1.5 ถึง 2 องศาเซลเซียส ตามความตกลงปารีส ไทยอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพลังงานชาติมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนภาคพลังงานของประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำด้วยพลังงานสะอาด เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่ที่มีสัดส่วนของพลังงานสะอาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และกำลังจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2065 – 2070

ประยุทธ์ -61D8-4A61-972A-39E54D4912D0.jpeg


โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าเราควรร่วมมือกันวางรากฐานโลกยุคหลังโควิด – 19 โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ปรับพฤติกรรมที่สร้างสมดุลระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ซึ่งไทยได้ใช้แนวทางโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว “Bio-Circular-Green Economy” หรือ “BCG” ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อยอดความเข้มแข็งของไทยในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และวัฒนธรรม สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality รวมทั้ง ส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ไทยมีนโยบาย 30@30 ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ไทยจะต้องมีสัดส่วนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าร้อยละ 30 จากการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรียืนยันความมุ่งมั่นของไทยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและเป้าหมายความตกลงปารีสสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเกิดความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันในอนาคต

อนึ่ง การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับผู้นำด้านพลังงานครั้งแรกในรอบ 40 ปี ที่จัดภายใต้สมัชชาสหประชาชาติ ซึ่งนอกจากประเด็นการดำเนินการด้านพลังงานแล้ว ยังให้ความสำคัญกับมิติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นโอกาสในการพิจารณาแผนงานระดับโลกสำหรับการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ใน ค.ศ. 2030 เร่งรัดการเข้าถึงบริการด้านพลังงานสะอาด ตลอดจนเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อบรรลุการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (net-zero emissions) ใน ค.ศ. 2050

นายกฯขอบคุณคนไทยและเจ้าหน้าที่ร่วมใจฉีดวัคซีน วันเดียวทะลุ 1.44 ล้านโดส   

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันเข้ารับและให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้วานนี้ สร้างสถิติยอดฉีดวัคซีนรายวันสูงสุดที่ 1,443,582 โดส (24 ก.ย. 2564 เวลา 22.01 น.) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหิดล  

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การให้บริการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเกินกว่า 1.4 ล้านโดส ซึ่งเป็นตัวเลขการฉีดรายวันสูงสุด โดยแบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 947,290 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 320,864 โดส รวมถึงการฉีดเข็มที่ 3 และ 4 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไทยมียอดการฉีดวัคซีนสะสมแล้วกว่า 50 ล้านโดส นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นในศักยภาพสาธารณสุขไทย จะสามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส คิดเป็น 50 ล้านคน หรือร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มเป้าหมาย ภายในปี 2564 นี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น “วาระแห่งชาติ”

“นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณประชาชนทุกคนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน และชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในทุกพื้นที่ ที่ทำงานแม้จะเป็นวันหยุดราชการ ให้บริการประชาชนที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนตามจุดบริการต่าง ๆ นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลเดินหน้าตามแผนการจัดหาและกระจายวัคซีน เพื่อลดความรุนแรงในการเจ็บป่วยและเสียชีวิตในประชากรกลุ่มเสี่ยง ที่สำคัญยิ่ง คือ หนุนการกลับมาการประกอบกิจการ/กิจกรรม เตรียมพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รองรับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ด้วย” ธนกรกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง