รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 2 มิถุนายน 2563
“อ.วิโรจน์” หยิกแกมหยอก หลังอ่านคำสัมภาษณ์ “ธรรมนัส” ที่พูดเอาหล่อไม่ได้ยืนข้างใคร หลังมีรอยร้าวใน “พลังประชารัฐ” ยืนยันอยู่ตรงกลาง ตั้งใจมาทำงานชี้พวกปั่นความขัดแย้ง แค่หวังเก้าอี้ รมต.
“อ.หญิง” ย้ำพูดเอาหล่อ เพราะนักการเมืองทั่วโลก เล่นการเมืองก็หวังเป็น รมต. ทั้งนั้น และฝาก “สมคิด” ตัดสินใจลาออกเอง...ก่อนจะถูกขับ ถูกเด้งออกมา
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องภายในพรรค ที่พี่ๆ น้องๆ จะต้องไปนั่งคุยกัน น่าเสียดายน่าจะเอาพลังไปใช้ในทิศทางที่ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองมากกว่า อยากให้พูดคุยกัน
เมื่อถามว่า ได้แนะนำอะไรไปหรือไม่ นายสมคิด ตอบว่า ตนไม่ได้แนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ กับตน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการอยากให้กำลังใจคนทำงาน เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็ทำงานหนัก วันนี้ พ.ร.ก.ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็ผ่านสภาเรียบร้อย เงินช่วยเหลือก็ไปถึงพี่น้องประชาชนแล้ว
“วันข้างหน้ายังมีอุปสรรคอีกเยอะ อยากให้คิดถึงตรงนี้ให้มากๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรกัน”นายสมคิดกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายสมคิดพูดจบประโยคนี้ได้พูดถามสื่อว่า “เบื่อมั้ย” ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามต่อว่า แล้วอย่างนี้จะทำงานด้วยกันต่อได้หรือไม่ นายสมคิด ยิ้มก่อนตอบว่า “ผมไม่ทราบในเรื่องนี้ ผมไม่ได้บ่นแค่ถามว่าเบื่อมั้ย”
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้านเศรษฐกิจ จะส่งผลต่อการปรับ ครม.ด้านนี้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ไม่รู้ สื่อถามเองก็ต้องคิดเอง เหตุการณ์ข้างหน้ายังมาไม่ถึง”
เมื่อถามอีกว่า ได้พูดคุยกับนายกฯ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคในเรื่องดังกล่าวแล้วหรือยัง นายสมคิด กล่าวว่า “ไม่ได้พูดคุยกันเลยครับ ผมบอกแล้วว่า ผมและนายกฯ ไม่ได้อยู่พรรคการเมือง กับท่านประวิตรก็เจอกันทุกวันก็ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ผมคิดว่าท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนก็นับถืออยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการให้สัมภาษณ์ของนายสมคิดครั้งนี้ เป็นการตั้งใจลงมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ที่โดยปกติแล้วจะเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การที่ตนและเพื่อนๆ ในกลุ่มภาคเหนือร่วมลงชื่อลาออกจาก กก. บห. พรรคฯ เนื่องจากได้รับการประสานจากทางผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่งเมื่อตนได้พิจารณาแล้ว จึงเห็นว่า ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา มีข่าวความเห็นต่างและความขัดแย้งในพรรคมาก ส่งผลกระทบต่อการทำงานและความเป็นเอกภาพของรัฐบาล เพราะคนที่ถูกกดดันมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมีหน้าที่แก้ปัญหาโควิดให้กับพี่น้องประชาชนก่อนหน้านี้ สื่อพยายามจับกลุ่มจัดแบ่ง กก.บห. เป็นสายโน้นสายนี้ โดยเฉพาะกลุ่มตนถูกจับตาเป็นพิเศษว่าเป็นตัวแปร หากอยู่ฝ่ายไหนฝ่ายนั้นจะมีเสียงเพิ่ม จนตนถูกจับไปอยู่ทั้งสองกลุ่ม ทั้งๆ ที่ตนคือพลังประชารัฐ
‘เมื่อผมลาออก ก็จะนำไปผูกโยงว่า อยู่ฝ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯจะทำให้กลุ่มนายอุตตม ไม่พอใจ สิ่งเหล่านี้มีคนบางคนพยายามสร้างขึ้นมา เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยมีผมอยู่ตรงกลาง อยากให้สังเกตุว่า มีคนบางกลุ่มที่ขับไล่ นายอุตตม มาตลอด แต่ไม่ลงชื่อลาออก นั่นหมายความว่า มีคนวางแผนให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อให้มีการปรับ ครม. ตนเองจะได้ตำแหน่งที่หวังไว้’ร.อ.ธรรมนัส กล่าว ส่วนจะมีการปรับ ครม. เปลี่ยนให้ฝ่าย พล.อ.ประวิตร เกลี่ยเก้าอี้กันใหม่หรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งนายกฯให้สัมภาษณ์แล้วว่า ยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม.
