ไม่พบผลการค้นหา
สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีไทย หลีกเลี่ยงการตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยวิธีการที่ทำให้คนรอบข้าง 'ถึงกับพูดไม่ออก'

สำนักข่าวเอพีและบีบีซีรายงานว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (8 มกราคม) หลังจากที่มีการให้โอวาทเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึง โดยพลเอกประยุทธ์บอกให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ 'สแตนดี' แทน

บีบีซีระบุว่า รัฐบาล คสช.ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในปีนี้ แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องจะถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ และกฎหมายฉบับใหม่ก็มีการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้ง ซึ่งหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกภายในสภามากขึ้น และประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผู้สื่อข่าวต้องการสอบถามผู้นำรัฐบาล คสช. แต่พลเอกประยุทธ์กลับสั่งให้เจ้าหน้าที่ยกสแตนดีมาวางไว้ และบอกให้สื่อถามคำถามกับสแตนดีแทนตัวเอง

ด้านเว็บไซต์เอเชียนคอเรสพอนเดนท์รายงานด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลเอกประยุทธ์หลีกเลี่ยงการตอบคำถามผู้สื่อข่าว และใช้วิธีการที่ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก โดยก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์โยนเปลือกกล้วยใส่ช่างภาพหรือบิดหูผู้ช่วยช่างภาพ รวมถึงเตือนให้สื่ออาวุโส 'ระวังตัว' หลังจากที่มีการถามคำถามที่พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่อยากตอบ

นอกจากนี้ สมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเปิดรายงานสถานการณ์ด้านสื่อในปี 2560 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่าสื่อไทยภายใต้รัฐบาล คสช.ยังตกอยู่ในสถานการณ์ “ควบคุม คุกคาม คลุกคลาน” และเป็นปีที่สื่อต้องปฏิบัติงานภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดของอำนาจรัฐ และต้องเผชิญกับท่าทีของผู้นำที่มีอคติในการทำงานของสื่อ ทำให้สื่อถูกกดดันจากการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบอำนาจรัฐด้วยข้ออ้างเหตุผลความมั่นคงของรัฐ มีการแทรกแซงการทำงานของสื่อ และเป็นอุปสรรคสำคัญในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 

ส่วนนายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เพิ่มเติม โดยระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีไม่ใส่ใจและไม่พอใจสื่อมาแล้วหลายครั้ง เป็นผลจากการที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าปีนี้ไทยจะมีการเลือกตั้ง แต่กลับไม่เปิดโอกาสให้มีการพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวในพื้นที่สาธารณะ