ไม่พบผลการค้นหา
อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์รำลึกครบ 1 ปี ของการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ย้ำยังหวังที่จะได้เห็นประเทศไทยก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก

วันที่ 7 มี.ค. 2563 ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กในวันที่ครบ 1 ปีของการตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ ว่า หนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นเวลาที่ไม่ง่าย และต้องปรับตัวพอสมควร ถือเป็นบททดสอบในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต แม้จะยากแต่ต้องผ่านไปให้ได้ เพราะชีวิตคือการเดินทาง อาจมีล้มลุกคลุกคลาน สมหวังหรือผิดหวังบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งทุกคนต่างมีความหวังและความฝัน หากมีจิตใจมุ่งมั่นและแน่วแน่ บนพื้นฐานความคิดที่ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ซื่อตรงต่อความเชื่อและอุดมการณ์ ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ตนเชื่อว่าสักวันความปรารถนานั้นจะเป็นจริง

"ทุกวันนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหารอบด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง การแก้ไขต้องอาศัยคนที่มีความพร้อมและเข้าใจ ต้องยึดผลประโยชน์ประชาชนและส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เวลาไม่เคยรอใคร การพัฒนาประเทศไปอย่างช้าๆ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วถือเป็นความล้าหลัง จึงต้องมีความจำเป็นต้องเปิดโอกาสและสร้างสรรค์สิ่งๆ ดีให้เกิดขึ้นเร็ว เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยและประเทศชาติ"

ทั้งนี้ ตนมีความปรารถนาที่จะได้เห็นชัยชนะของประเทศไทย ขอให้กำลังใจทุกคน ร่วมกันสานฝัน หลอมรวมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้

ดร.ฤภพ ชินวัตร อดีตรองหัวหน้าพรรค ทษช. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 7 มีนาคม 2563 ครบ 1 ปีแล้วที่ พรรคไทยรักษาชาติ โดนยุบ และ กรรมการบริหารพรรค โดนตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถอยู่ในการเมือง แต่ด้วยความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย และความตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตนจะขอใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ช่วยสร้างโอกาส สร้างอนาคตให้ประเทศไทย และพี่น้องคนไทยตลอดไป


ด้าน น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตนายทะเบียนสมาชิกพรรค ทษช. กล่าวถึงวันครบรอบ 1 ปี นี้ว่า พรรคไทยรักษาชาติ ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ ที่มีจุดมุ่งหมายคือการเห็นประเทศก้าวทันความเปลี่ยนแปลงโลก แต่น่าเศร้าที่ทุกวันนี้ไทยอ่อนแอจากภายใน สิ่งที่เป็นอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้แทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพ, เศรษฐกิจ, คุณภาพชีวิต และปากท้อง และแม้ว่าพรรคไทยรักษาชาติจะเปลี่ยนไป แต่จิตวิญญาณและความตั้งใจที่อยากเห็นคนไทยอยู่ดีกินดียังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง และแม่จะไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง แต่ยังมีความฝันและหวังที่จะทำงานหรือเป็นหนึ่งในการสร้างโอกาสและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเสมอ

ในขณะที่นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตรองเลขาธิการ ทษช. ระบุว่า หนึ่งปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นบททดสอบสำคัญของชีวิตจากเด็กคนนึงที่ใฝ่ฝันและตั้งใจที่จะอาสาทำงานทางการเมืองเพื่ออยากช่วยเหลือประชาชน และพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า แม้โอกาสยังมาไม่ถึง แต่ตนก็จะไม่ละทิ้งความฝันและความตั้งใจนี้ และที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ ได้พูดคุยกับเกษตรกร นักธุรกิจสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เพื่อศึกษาถึงปัญหา และหาแนวทางที่จะพัฒนาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงโลก

แม้ว่าปัจจุบันต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจมีผลต่อประชาชนทุกระดับ ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และถูกต้อง แต่ตนเชื่อว่าหากเราร่วมมือกัน หาจุดแข็งของประเทศไทย ส่งเสริมให้ถูกทางปัญหาเหล่านี้ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น และทุกวันนี้แม้บทบาทตนจะเปลี่ยนไป แต่ความตั้งใจเหล่านั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อหวังสร้างโอกาส และอนาคตที่ดีให้คนไทย

ด้านดร. ฤภพ ชินวัตร อดีตรองหัวหน้าพรรค ได้โพสต์ย้ำถึงความเชื่อมั่นในประชาธิปไตยโดยระบุว่า

"7 มีนาคม 2563 ครบ 1 ปีแล้วที่ พรรคไทยรักษาชาติ โดนยุบ และ กรรมการบริหารพรรค โดนตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี

"ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถอยู่ในการเมือง แต่ด้วยความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย และ ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผมก็จะขอใช้ความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ ช่วยสร้างโอกาส สร้างอนาคตให้ประเทศไทย และ พี่น้องคนไทย ตลอดไป

#7มีนาคม2563

#ครบ1ปียุบพรรคไทยรักษาชาติ

#togetherforever

#โอกาสคืออนาคต"



ข่าวที่เกี่ยวข้อง